‘เดนมาร์ก’ ชี้ฉีดวัคซีนโควิดโดสแรก ยังเสี่ยงสายพันธุ์เดลตา

‘เดนมาร์ก’ ชี้ฉีดวัคซีนโควิดโดสแรก ยังเสี่ยงสายพันธุ์เดลตา

สถาบันเซรุ่มแห่งเดนมาร์ก (SSI) เผย ความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ยังอยู่ในระดับสูง แม้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรกแล้ว

สถาบันฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจจับโรคติดต่อของเดนมาร์ก ทำการตรวจสอบอัตราการอุบัติของโรคโควิด-19 ในหมู่ของผู้ฉีดวัคซีนโดสแรกช่วงวันที่ 1 มี.ค.-13 ก.ค. โดยพบว่า 22% ของผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา ติดเชื้อหลังจากฉีดวัคซีนโดสแรกเป็นเวลา 14 วัน

“แม้พวกเขาจะฉีดวัคซีนและมีใบรับรองการเดินทางแล้ว แต่ยังมีคนกลุ่มนี้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาจำนวนมาก” แพลล์ แวเลนทิเนอร์-บรันท์ หัวหน้าแผนกของสถาบันฯ ระบุ และกล่าวว่า ดังนั้นพวกเขาต้องตระหนักว่าตนยังมีโอกาสติดเชื้อได้อยู่ ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านการป้องกันการติดเชื้อต่อไป และอย่ารอนานเกินไปกว่าจะฉีดวัคซีนโดสสอง

ปัจจุบันเดนมาร์กจัดการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั่วประเทศโดยใช้วัคซีนหลายชนิด อาทิ ไฟเซอร์-ไบออนเทค และโมเดอร์นา

สถาบันฯ กล่าวย้ำว่าการฉีดวัคซีนโควิด-19 แม้เพียงโดสเดียวก็เพียงพอจะสร้างการปกป้องระดับสูงต่ออาการป่วยหนักและการรักษาตัวในโรงพยาบาล ไม่ว่าคุณจะติดเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์อัลฟาหรือเดลตาก็ตาม

รายงานของสถาบันฯ เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ระบุว่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา ครองสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 ของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ทั้งหมดในเดนมาร์ก และคาดการณ์ว่าเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์เดลตา จะกลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในเดนมาร์กในอนาคตอันใกล้ พร้อมทำให้ยอดผู้ป่วยพุ่งขึ้นอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม สถาบันฯ ตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 772 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 1 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมง ทำให้เดนมาร์กมีผู้ป่วยสะสม 312,292 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 2,543 ราย