แนวรบ 'โควิด-รัฐธรรมนูญ' จุดเปลี่ยนรัฐบาล 'ประยุทธ์'

วิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกนี้ ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหาตัวเลขผู้ติดเชื้อระดับ 5-6 พันคนต่อวัน มีผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีทีท่าว่าตัวเลขจะลดลงในเร็ววันนี้

ความเดือดร้อนของผู้คนจากโควิด กำลังสั่นคลอนอำนาจและความเชื่อมั่นของรัฐบาล และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม อย่างหนักหน่วง ไม่ว่ารัฐบาล และพล.อ.ประยุทธ์ จะขยับ จะนั่ง กิน เดิน พูด ยกไม้ยกมืออย่างไร หรือมีมาตรการควบคุมอะไรออกมา แม้จะเป็นไปตามตัวบท มีกฎหมายรองรับ แต่ดูเหมือนว่าจะขัดความรู้สึกประชาชนเป็นอย่างมาก

อารมณ์สังคมที่ปะทุอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะเมื่อต้องแบกรับผลกระทบที่เกิดขึ้น ท่ามกลางคำถาม และข้อสงสัยมากมาย ถึงความเหมาะสมของมาตรการในมิติต่างๆ การจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรับมือกับเชื้อโควิดที่กลายพันธุ์

แพทย์บางส่วนเรียกร้องให้รัฐบาลจัดหาวัคซีน mRNA รวมถึงกระแสสังคมที่เรียกร้องให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เข็ม3 ให้บุคลากรด่านหน้า หลังจากพบการติดเชื้อของบุคลากรการแพทย์ ทั้งที่ฉีดวัคซีนตัวหลักบางยี่ห้อครบ 2 เข็มแล้ว

ยังไม่นับรวมที่ผู้คนจำนวนมาก ยอมควักกระเป๋าหลายพันบาท เพื่อซื้อวัคซีนโมเดอร์น่ากับโรงพยาบาลเอกชน สะท้อนได้เป็นอย่างดีว่า ในสายตาคนทั่วไป ความเชื่อมั่นในวัคซีนหลัก ที่ทางการจัดหาให้คนในประเทศเป็นอย่างไร

ประกอบกับแรงกดดันของผู้ชุมนุมหลากหลายกลุ่ม ที่ออกโรงขย่มพล.อ.ประยุทธ์ ด้วยการหยิบยกการบริหารงานที่ถูกมองว่าล้มเหลวสิ้นเชิง

ด้วยอารมณ์ของคนในสังคมตอนนี้ อาจจะผลักให้คนที่ไม่เคยอินกับการเมืองมาก่อน มีโอกาสจะตัดสินใจร่วมกับม็อบได้

นอกจากแนวรบโควิด และแนวร่วมผู้ชุมนุมบนท้องถนนแล้ว ยังมีแนวรบในสภาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน และพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค ตั้งแท่นปิดสวิตซ์ส.ว.ให้ได้ จะเป็นปัจจัยเร่งเกมกดดันทางการเมืองนอกสภาควบคู่กันไปด้วย

ในจังหวะที่ฝ่ายบริหารเผชิญปัญหาแสนสาหัส แทบจะมีเพียง พล.อ.ประยุทธ์ และ นายอนุทินชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข รับแรงเสียดทานไปเต็มๆ ด้วยอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับโควิดโดยตรง เช่นเดียวกับบรรดาข้าราชการฝ่ายปฏิบัติ ที่ต้องร่วมแบกรับความคาดหวังของคนไทยในเวลานี้

ขณะที่รัฐมนตรี และ ส.ส.จากทั้งพรรคร่วมรัฐบาล หรือแม้แต่พรรคพลังประชารัฐหลายคนที่ลอยตัว ทำงานเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ก็เพื่อประคับประคองตัวเองไม่ให้บอบช้ำ ในช่วงกำลังนับถอยหลังสู่การเลือกตั้งครั้งต่อไป

สถานการณ์ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเผชิญแนวรบรอบด้าน จนความนิยมกำลังถดถอยเข้าไปทุกขณะ บรรดากุนซือ รวมถึงฝ่ายเสธของ พล.อ.ประยุทธ์ คงต้องระดมสมอง เพื่อพลิกเกมจากวิกฤติศรัทธาครั้งนี้ ก่อนจะสายเกินไป

หาก พล.อ.ประยุทธ์ คิดจะอยู่ต่อในสังเวียนการเมือง หรือในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ชั่วโมงนี้ต้องเร่งสร้างจุดเปลี่ยนสำคัญให้เกิดขึ้น เพื่อให้คนไทยเห็นความหวัง

นี่จึงเป็นบทพิสูจน์ภาวะผู้นำ และเป็นเดิมพันครั้งสำคัญในทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนจะไม่มีโอกาสบริหารจัดการปัญหาครั้งนี้