EA  คาดใช้เวลา 1 ปีวิจัย-พัฒนา 'รถไฟไฮบริดแบตเตอรี่'ร่วมกับ ไชน่า เรลเวย์

EA  คาดใช้เวลา 1 ปีวิจัย-พัฒนา 'รถไฟไฮบริดแบตเตอรี่'ร่วมกับ ไชน่า เรลเวย์

EA เซ็นเอ็มโอยู ไชน่า เรลเวย์ฯ วิจัย-พัฒนารถไฟไฮบริดแบตเตอรี่  คาด1ปี ได้ข้อสรุป ลงทุนสร้างโรงงานประกอบหัวรถจักร -ขนส่งมวลชนไฮบริดแบตเตอรี่- ศูนย์ซ่อมบำรุง -ซ่อมแซมรถไฟความเร็วสูง ยันโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน เริ่มผลิตไตรมาส3/64

บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA  ลงนามความร่วมมือกับChina Railway Construction (Southeast Asia) Co.,Ltd (CRCCSA)ในการพัฒนารถไฟ Hybrid Battery

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA เปิดเผยว่า นับเป็นโอกาสที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของ EA ที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของการร่วมศึกษาวิจัยและพัฒนาความเป็นไปได้ทางธุรกิจ ในการพัฒนารถไฟ Hybrid Battery ที่ทันสมัยยกระดับการเดินทางทางรางให้เทียบเท่านานาประเทศ 

 ทั้งนี้คาดว่าเมื่อโครงการนี้สำเร็จจะเป็นจุดเริ่มต้นครั้งยิ่งใหญ่ สู่การสร้างโรงงานประกอบหัวรถจักร และขนส่งมวลชนไฮบริดแบตเตอรี่ ตลอดจนศูนย์ซ่อมบำรุง และซ่อมแซมรถไฟความเร็วสูงทั้งหมดจะเป็นส่วนสนับสนุนการใช้ทรัพยากรภายในประเทศ ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนด้านการใช้ทรัพยากรภายในประเทศ และลดการพึ่งพาหรือนำเข้าจากต่างประเทศ เกิดการลงทุนเป็นจำนวนเงินมหาศาล และเกิดการจ้างงานเป็นจำนวนมาก 

ส่งผลดีต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว และยังสะท้อนความมุ่งมั่นของประเทศไทยที่จะผลักดันการใช้พลังงานสะอาดในมีสัดส่วนที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นไปตามตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศความตกลงปารีส

       นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยกับ “หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ” ว่า แผนการพัฒนาร่วมศึกษาวิจัยและพัฒนา (R&D) ความเป็นไปได้ทางธุรกิจ ในการพัฒนารถไฟ Hybrid Battery คาดว่าใช้เวลาการทำ R&D ประมาณ 1 ปี จะได้ข้อสรุปเบื้องต้น ว่าจะสามารถพัฒนาลงทุนโครงการการสร้างโรงงานประกอบหัวรถจักร และขนส่งมวลชนไฮบริดแบตเตอรี่ ตลอดจนศูนย์ซ่อมบำรุง และซ่อมแซมรถไฟความเร็วสูง โดยบริษัทจะทำงานร่วมกับ CRCCSA ต่อเนื่อง

      “ยังเร็วไปที่จะพูดถึงรูปแบบการลงทุน เนื่องจากกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาวิจัยและพัฒนาร่วมกัน แต่คาดว่าหากผลการทำ R&D สำเร็จก็จะวางแผนลงทุนโรงงานในสเต็ปถัดไป ซึ่งคาดมูลค่าการลงทุนค่อนข้างสูงมาก และก็ยังไม่ได้ประเมินเป็นตัวเลขการลงทุนออกมาว่าเท่าไหร่”

สำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่ดำเนินการภายใต้บริษัทย่อย ชื่อ บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด (ATT) ระยะที่ 1 ซึ่งมีขนาดกำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ปัจจุบันยังเดินหน้าได้ตามแผน โดยอยู่ระหว่างการทดสอบการทำงานของเครื่องจักรทั้งระบบ คาดว่าโรงงานจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตสำหรับระยะที่ 1 ได้ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2564 โดยระยะแรกจะจำหน่ายแบตเตอรี่ไปยังกลุ่มธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าภายในกลุ่มของบริษัท ได้แก่ รถบัสไฟฟ้า และเรือไฟฟ้า ซึ่งหากตลาดตอบรับดี บริษัทเตรียมลงทุนระยะที่ 2 ต่อ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่สูงแล้ว เนื่องจากระยะที่ 1 มีการลงทุนในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานไปแล้ว เช่น อาคาร

นาย Luo Wen, Managing Director ของ CRCCSA กล่าวว่า ที่ผ่านมาการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีแผนส่งเสริมและผลักดันการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟอย่างจริงจัง ซึ่ง CRCCSA ในกลุ่ม China Railway Construction Corporation Limited เป็นผู้นำการก่อสร้างด้วยประสบการณ์สำรวจ ออกแบบ และก่อสร้างทางรถไฟและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ

การพัฒนารถไฟ Hybrid Battery ในประเทศไทย ร่วมกับ EA ผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานของประเทศไทย ทั้งการผลิตพลังงานสะอาด การจัดเก็บพลังงาน ยานยนต์ไฟฟ้า และสถานีชาร์จที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในครั้งนี้ และเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าภายใต้การดูแลและคำแนะนำของกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยและ รฟท. ความร่วมมือระหว่าง CRCCSA และ EA จะประสบความสำเร็จแห่งความสำเร็จในไม่ช้าอย่างแน่นอน