ประวัติศาสตร์ไทใหญ่ ประชาธิปไตยกับครูเคอแสน

ประวัติศาสตร์ไทใหญ่ ประชาธิปไตยกับครูเคอแสน

เมื่อตัดสินใจกู้ชาติ "ครูเคอแสน"ยอมทิ้งบ้านสองหลัง ทรัพย์สมบัติทั้งหมด สิ่งเดียวที่ขนมาเต็มรถปิ๊กอัพสองคันก็คือหนังสือซึ่งเป็นสิ่งมีค่าที่สุด ที่จะให้กับเด็ก"ไทใหญ่"ต่อไปในอนาคต

ในวันที่ 19 มิถุนายน 2564 นี้ “ครูเคอแสน” พี่สาวไทใหญ่ที่รักของดิฉัน มีอายุครบ 68 ปีเต็ม เมื่อเช้านี้ ตะวันรุ่ง-ดิฉันอยู่ที่ชายทะเลหาดเจ้าสำราญ จ.เพชรบุรี ครูเคอแสนอยู่ที่วัดเมืองลายค่า รัฐฉาน ประเทศเมียนมาเราได้โทรศัพท์คุยกัน

เช้านี้ที่เมืองลายค่า ทางตุ๊เจ้า(พระ) และนักเรียนของครูเคอแสนกำลังจัดพิธีทำบุญวันเกิดให้ครูอยู่ที่วัดซีบีวาย ในช่วงนี้ครูเคอแสนเป็นหัวเรือใหญ่ในการฝึกอบรมผู้นำเยาวชนไทใหญ่ให้มีความรู้ในเรื่องรัฐธรรมนูญฉบับปี ค.ศ.2008

และให้ความรู้ทางด้านการเมือง ประวัติศาสตร์โลก ประวัติศาสตร์ไทใหญ่ การพูดกับมวลชน เทรนนิ่งทางด้านบัญชี คอมพิวเตอร์ ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน-19 กรกฎาคม 2564

 

ครูเคอแสน ผู้ให้การศึกษาแก่'ไทใหญ่'

คนเข้าร่วมในการฝึกอบรมครั้งนี้ มีทั้งหมด 255 คน เป็นพระ 92 รูป, ผู้นำเยาวชนหญิง 102 คน,ผู้นำเยาวชนชาย 61 คน
พวกเขาทั้งพระทั้งหนุ่มสาวหญิงชายมาจากทั่วรัฐฉาน หมู่บ้านละ 1-2 คน ครูเคอแสนบอกว่า

“บางที่ก็มีแต่ตุ๊เจ้า(พระ)มา บางที่ผู้ชายมา บางที่ผู้หญิงมา คนที่มาเข้ารับการฝึกอบรมนี้ ส่วนมากจะเป็นครู หรือผู้นำชาย ผู้นำหญิงในหมู่บ้าน เด็กผู้หญิงที่มาเข้าอบรมเก่งมากๆ พูดฉาดฉาน ฉลาดมาก

เขามาอบรมให้มีความรู้ ไว้ทำงานการศึกษา ถ้าเด็กไทใหญ่ไม่มีการศึกษา ไม่มีความรู้ ไม่มีความคิดของตนเอง จะไม่รู้ว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ

เพราะว่าคนไทใหญ่การศึกษาเราต่ำกว่าคนอื่นๆ เราเลยต้องจัดอบรมกัน คนไทไหญ่จะอยู่ที่ไหนๆ ก็ต้องให้มีการศึกษา นี่เป็นแนวคิดของข้าตลอด 30-40 ปีมาแล้ว

เยาวชนมาที่นี่เราเลยสอนเขาเต็มที่ สอนทุกอย่าง ให้ทุกอย่าง ทั้งความรู้ด้านการเมือง ประวัติศาสตร์ และยังสอนบัญชี คอมพิวเตอร์ งานออฟฟิศ


162410799261

(ภาพนี้มาจากครูเคอแสน เป็นภาพการฝึกอบรมที่เมืองลายค่าในช่วงเวลานี้)

ในเรื่องรัฐธรรมนูญ สำคัญมาก เป็นหัวใจสำคัญของการฝึกอบรมครั้งนี้ เราจัดสอนเรื่องรัฐธรรมนูญตั้งแต่ประวัติศาสตร์รัฐธรรมนูญฉบับแรกของพม่า และตอนนี้พม่าใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี ค.ศ.2008 ทั้งหมด 457 มาตรา

เราจัดสอนให้คนไทใหญ่ที่เข้าฝึกอบรม เข้าใจรัฐธรรมนูญทุกมาตรา เพื่อให้คนรุ่นใหม่ คนจะทำงานเพื่อบ้านเมืองต่อไป ต้องรู้ต้องเข้าใจรัฐธรรมนูญก่อน ถึงจะบอกได้ว่ารัฐธรรมนูญดีหรือไม่ดีอย่างไร มีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร

มิฉะนั้นถ้ายังไม่มีความรู้ ไม่มีความเข้าใจรัฐธรรมนูญฉบับปี 2008 จะไปบอกว่าไม่ชอบ ก็เหมือนไปหาความผิด ไปจับผิดรัฐธรรมนูญ ไปทำให้บ้านเมืองยุ่งยาก

เราต้องสอนให้คนไทใหญ่รู้ และเข้าใจรัฐธรรมนูญอย่างถ่องแท้กันก่อน ดีไม่ดี ต้องให้รู้ทั้งหมดก่อน ถ้าไม่รู้เรื่อง ตัวแทนสภา สส.เข้าไปในสภา พวกสส.เขาไปทำถูก ทำผิดกันอย่างไร ประชาชนจะไม่รู้เลย

ถ้าผู้นำประชาชนยังไม่รู้รัฐธรรมนูญ มันจะมีเกิดจุดอ่อน มันจะทำให้ สส. คนทำงานทางการเมืองมาโกหกประชาชนได้ง่ายๆ ประชาชนจะเชื่อคำโกหกได้ง่ายๆ เพราะไม่มีความรู้ ไม่รู้รัฐธรรมนูญ

 

162410816295

พระและหนุ่มสาวทั้งหมดมาจากรัฐฉาน เพื่อเข้าอบรมหาวิชาความรู้

เราต้องให้ประชาชนไทใหญ่เข้าใจรัฐธรรมนูญ ความรู้ความเข้าใจนี้สำคัญที่สุด ประชาชนจะไปด่ารัฐบาลอย่างเดียวไม่ได้ จะไปด่านักการเมืองอย่างเดียวไม่ได้ ต้องรู้รัฐธรรมนูญก่อน ถึงจะไม่ถูกนักการเมืองหลอกลวง

ถ้าประชาชนไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจรัฐธรรมนูญ พอไปยุ่งการเมือง จะยิ่งลำบาก บ้านเมืองยิ่งวุ่นวาย ถ้าไปทำงานการเมืองแล้วไม่รู้เรื่องรัฐธรรมนูญ เราจะไปเป็นเหยื่อคนอื่น ให้ถูกหลอกใช้ได้ ดังนั้นเราต้องทำตัวเองให้แข็งแรงก่อน"

 

 

สอนประชาธิปไตยให้คนไทใหญ่

การฝึกอบรมนี้ ครูเคอแสนเน้นให้ประชาชนเข้มแข็ง มีความรู้อย่างเข้มแข็ง แข็งแรงขึ้นมา ต้องให้ประชาชนแข็งแรงก่อน ประชาธิปไตยถึงจะเดินหน้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โครงการจัดฝึกอบรมเช่นนี้ ข้าเคยทำทุกปีที่เมืองตองจี ปีก่อนไม่ได้ทำ ปีนี้มาจัดอบรมที่เมืองลายค่า เพราะที่นี่สงบ ไม่มีใครมาประท้วง กลุ่มครูที่สอน-มีข้ากับลูกศิษย์ข้า 2-3 คน

และมีตุ๊เจ้า(พระ) พระครูสุคำ ท่านเป็นพระสำคัญของไทใหญ่ อยู่วัดที่เมืองหมู่แจ้ ต้างยาน ท่านมาสอนด้วย มาสอนเรื่องการพูดในที่สาธารณะ How to give speech วิธีการพูดกับคนอื่นๆ เพราะคนหนุ่มสาว และพระที่มาฝึกอบรม เป็นกลุ่มผู้นำชุมชน ต้องเรียนรู้วิธีพูดกับมวลชน ผู้นำชุมชนต้องพูดกับมวลชนให้เป็น



162411099395

ครูเคอแสนและพระที่มาร่วมอบรม

และเรายังสอนเรื่องของสันติภาพ peace เน้นเรื่องสันติภาพ บ้านเมืองต้องสงบ เราเน้นหนทางที่ให้บ้านเมืองสงบ ไม่สงบไม่ได้ ไม่สงบแก้ปัญหาไม่ได้ คนไทใหญ่ลำบากมามาก ยิ่งเกิดสงคราม บ้านเมืองไม่สงบ ชาวบ้านยิ่งลำบาก

เราถึงสอนให้ความรู้ในเรื่องรัฐธรรมนูญและสันติภาพ เพื่อไปทำงานในชุมชนให้บ้านเมืองสงบ เรายังสอนเรื่องของการใช้คอมพิวเตอร์ วิธีการทำงานในออฟฟิศ สำนักงาน การทำบัญชี”

นี้คือคำอธิบายจากครูเคอแสน นักวิชาการไทใหญ่ ที่ดิฉันรู้จัก รักเหมือนเป็นพี่สาวแท้ๆ ของดิฉันมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2547 เราถูกชะตากันมาก รักกันมาก ตั้งแต่พบกันครั้งแรกบนดอยไตแลงเมื่อปี พ.ศ.2547


แน่ล่ะ มีหลายครั้งที่ดิฉันถกเถียงแรงๆ กับครูเคอแสน แต่เราเป็นคนรักสัจจะ พูดจริง พูดตรง ชัด แรงเหมือนๆ กัน เราจึงไม่เคยเคืองขุ่นใจระหว่างกัน ยอมรับกันได้ และยิ่งนับถือ รักกัน ที่กล้าพูดจริง พูดชัด ตรงไปตรงมา ต่อกันและกันอย่างไม่ต้องอ้อมค้อมอะไร
 

ครูเคอแสนเคยถูกรัฐบาลเนวินจับเข้าคุก

ครูเคอแสนเกิดเมื่อปีพ.ศ.2497 เป็นคนทำงานทางการเมืองมาตั้งแต่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยร่างกุ้ง เมื่อครั้งเป็นนักศึกษาเคยถูกรัฐบาลเนวินจับเข้าคุก ติดคุกการเมืองพม่าอยู่หลายปี

ครูพบวิกฤตรุนแรงในชีวิตมาตลอด แต่ไม่เคยท้อถอย และต่อสู้เพื่อแผ่นดินและประชาชนไทใหญ่มาหลายสิบปี ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปีมาจนอายุ 68 ปีในวันนี้

ครูเคอแสนแต่งงานกับ “เจ้าตืนสาง” สัตวแพทย์ เพื่อนจากมหาวิทยาลัยร่างกุ้ง เจ้าตืนสางเป็นลูกชายเจ้าฟ้าเมืองหนององค์สุดท้าย และเจ้าตืนสางเคยเป็นเลขาธิการอันดับ1 ของสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน

ครูเคอแสนกับเจ้าตืนสางมีลูก 2 คน ลูกชายคนโตเป็นทหารเก่งมากๆ ในกองทัพรัฐฉาน ลูกชายคนเล็กเป็นคนเก่งมาก ทำงานการเมือง และมีความรู้มากสุดๆ ในเรื่องแหล่งแร่ในเมียนมากับตัวยาสมุนไพรสำคัญของโลกยุคนี้

ดิฉันรักและศรัทธาครูเคอแสนมาก และเคยเขียนถึงการทำงานของครูเคอแสนไว้ในบทความ “ดวงดาวของชาวไทใหญ่” บอกเล่าการทำงานของครูเคอแสนเอาไว้ดังนี้

 

 

 

ครูเคอแสน : อดีตผู้นำนักศึกษาไทใหญ่

เมื่อได้ทำหน้าที่ทางวิชาชีพของภาคกลางวันจนหมดแรง งานภาคกลางคืนที่สนองแรงปรารถนาส่วนตัว นับเป็นความรื่นรมย์อย่างแท้จริง เพราะสำหรับคนชอบดูดาวแล้ว การเข้าไปยังดอยไตแลง ประหนึ่งเข้าไปในแผ่นดินสวรรค์ ยากจะหาที่ใดเปรียบ

บนยอดดอยสูงตระหง่าน แวดล้อมด้วยบังเกอร์ทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์เต็มอัตราศึก และอากาศหนาวเยียบเย็นกลางเดือนธันวาคม น้ำค้างร่วงเผาะลงเปียกแก้มขณะอุณหภูมิยามดึกลดเหลือเพียง 5-7 องศา

ลมแรงหวีดหวิว พัดกรีดไปตามใบไม้พลิกไหว ฟ้าเบื้องบนสะอาดใส ดาวโชติแสงพราว ดวงใหญ่วูบวับเหมือนจะหยาดร่วงลงในอุ้งมือได้ กลางฟ้ามองเห็นทางช้างเผือกพาดสกาว มีแอ่งดาวระยิบไล่ไปเป็นแถบ สวยมหัศจรรย์ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา

แหงนมองดาวบนแผ่นดินไทใหญ่จนคอแทบเคล็ด อิ่มตาเหลือเกิน และยิ่งอิ่มใจมากขึ้นเมื่อได้สืบหาตำนานดาวไทใหญ่ จากครูเคอแสน ครูหญิงวัย 50 ปี อดีตผู้นำนักศึกษาไทใหญ่ที่เคยติดคุกตั้งแต่ยังเป็นสาวรุ่นอายุ 18 ปี

ก่อนที่เจ้ายอดศึกจะชักชวนให้เข้าร่วมในขบวนการกู้ชาติ ครูเคอแสนเป็นเจ้าหน้าที่ทางการเงิน อยู่ในมหาวิทยาลัยตองจี

ปัจจุบันครูเคอแสน คือหนึ่งในกลุ่มเลขาธิการแห่ง “สภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน” (RCSS-Restoration Council of Shan State) ซึ่งมีพันเอกเจ้ายอดศึกเป็นประธาน

ครูรับผิดชอบงานทางด้านวางแผนการศึกษา เขียนตำราเรียนสี่ภาษา ให้เด็กไทใหญ่เรียนกันทั้งภาษาพม่า ภาษาไทย ภาษาไทใหญ่ และภาษาอังกฤษ

 

162410921437

ชั่วเวลาสองปีครูเคอแสนเพียงคนเดียว สามารถเขียนตำราเสร็จตีพิมพ์เรียบร้อยถึงร่วมยี่สิบเล่ม เป็นตำราประวัติศาสตร์ไทใหญ่ ภูมิศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ มีกระทั่ง Picture Dictionary เทียบคำภาษาไทใหญ่กับภาษาอังกฤษ มีรูปประกอบงดงาม

พลิกดูตำราวิทยาศาสตร์ชั้นประถม 3 ของครู สอนเรื่องโลก จักรวาล และสอนเด็กไทใหญ่ดูดาวบนฟ้า แถมภาพประกอบสีสัน

สดใส ครูเคอแสนวาด ลงสีทั้งหมด ด้วยฝีมือตัวเอง
 

ครูผู้สร้างอนาคตให้เด็กไทใหญ่

ถามครูว่า เอาแรงที่ไหนทำคะ เยอะแยะไปหมดอย่างนี้ เมืองไทยต้องใช้คนทั้งกระทรวง บริหารจัดทำ นี่…ครูเหมาคนเดียว

ครูตอบว่า สองปีมานี้ครูนอนวันละ 3 ชั่วโมง รีบเร่งเขียนตำราให้เด็กไทใหญ่ เพราะเด็กๆมีช่วงเวลาที่จะได้เรียนหนังสือในระยะสั้น จึงต้อง “อัด” เนื้อหาหลักสูตรอย่างเร่งรัด เพื่อให้สามารถเติบโตมีความรู้ มีความชำนาญ 4 ภาษา ให้พึ่งตัวเองได้


162410956963

ครูเคอแสนยอมทิ้งทรัพย์สมบัติ เพื่อสร้างอนาคตให้เด็กไทใหญ่

อันที่จริงตอนอยู่ในตองจี ครูเป็นนักวิชาการที่มีชื่อเสียง มีฐานะดี เมื่อตัดสินใจกู้ชาติ ครูทิ้งบ้านสองหลัง ยอมทิ้งทรัพย์สมบัติทั้งหมด สิ่งเดียวที่ขนมาเต็มรถปิ๊กอัพสองคันก็คือหนังสือต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งมีค่าที่สุด ที่จะให้กับเด็กไทใหญ่ต่อไปในอนาคตได้

หนังสือที่ครูเขียนบางเล่มมีความหมายมาก โดยเฉพาะ “ประวัติศาสตร์ชนชาติไทใหญ่” ซึ่งหนาถึงสี่ร้อยกว่าหน้า บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์ไทใหญ่

ครูเคอแสนเล่าว่า รวบรวมข้อมูลจากหนังสือถึงประมาณสี่ร้อยเล่ม ลำบากยากเข็ญ เพราะตัวเองไม่ใช่นักประวัติศาสตร์ พยายามเขียนและพิมพ์ขาย ควักเงินส่วนตัวไปมากมาย แต่เก็บเงินกลับมาแทบไม่ได้ เนื่องด้วยปัญหาสงครามในรัฐฉาน แถมหนังสือยังถูกรัฐบาลพม่า “แบน” สั่งเก็บ ห้ามจำหน่าย


162410929230

 

ถามครูเรื่องนี้ว่า "เจ๊งไปมากไหม"

ครูตอบว่า "ขาดทุนเงิน--ไม่เป็นไร แต่กำไรอยู่ตรงคนไทใหญ่ได้รู้ประวัติศาสตร์ และได้มีจิตใจรักชาติ รักบ้านเมืองตัวเอง นี่มีค่ากว่าอะไรทั้งหมดแล้ว”

ในปี พ.ศ.2564 วันนี้ครูเคอแสนพี่สาวไทใหญ่ที่รักมีอายุครบ 68 ปีเต็ม เรารักกันยาวนาน ทำงานด้วยกันยาวนานมา 18 ปีเต็มแล้ว


น้องสาวคนนี้กราบขอพรพระพุทธเจ้า ธรรมะ สัจจะ ความจริง เมตตาบารมี ที่ครูเคอแสนปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบมาตลอดชีวิต คุ้มครองพี่เคอแสนและครอบครัว ให้แข็งแรงปลอดภัยทั้งกายใจ ก้าวหน้าสำเร็จในความมุ่งมั่น สมดังเจตนาที่พี่เคอแสน อุทิศทั้งชีวิตมอบไว้ให้รัฐฉานแผ่นดินเกิดและประชาชนไทใหญ่ตลอดมา

ด้วยรัก เคารพ ศรัทธาในดวงใจอันประเสริฐของครูเคอแสน พี่สาวไทใหญ่ที่รักยิ่งของดิฉัน

.....................

หมายเหตุ : ตามอ่านงานได้ที่เพจ นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว

ภาพชุดนี้มาจากครูเคอแสน เป็นภาพการฝึกอบรมที่เมืองลายค่า