รู้จัก ‘ฉีเจิ้งลี่’ แบทวูแมนแล็บอู่ฮั่น

รู้จัก ‘ฉีเจิ้งลี่’ แบทวูแมนแล็บอู่ฮั่น

สถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่นถูกสงสัยมาตลอดถึงความเกี่ยวข้องต้นกำเนิดโควิด-19 จนถึงคราวที่ผู้อำนวยการหญิงของสถาบันต้องออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหา

ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาทฤษฎีที่ว่า ไวรัสโควิดหลุดมาจากห้องทดลองในเมืองอู่ฮั่นได้รับการพูดถึงหนาหูอีกครั้ง จากเดิมที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ เคยพูดไว้ตอนโควิด-19 ระบาดใหม่ๆ ร้อนถึงนักไวรัสวิทยานาม “ฉี เจิ้งลี่” เจ้าของสมญา “แบทวูแมน” แห่งประเทศจีน ต้องออกมาสวดส่งว่าเป็นทฤษฎีเลื่อนลอยไม่มีมูล 

เว็บไซต์เดอะซันรายงานว่า กำลังมีการรวบรวมหลักฐานแวดล้อมเชื่อมโยงต้นกำเนิดไวรัสโควิดกับสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่นที่กำลังตรวจสอบไวรัสโคโรนาในค้างคาว  แต่สาเหตุแท้จริงของโควิด-19 ยังไม่มีใครรู้ โควิดอาจหลุดรอดออกมาโดยนักวิจัยที่ติดเชื้อ การกำจัดขยะไม่ถูกวิธี หรืออาจมีการฝ่าฝืนการรักษาความปลอดภัยในห้องแล็บ

หน่วยข่าวกรองสหรัฐกำลังตรวจสอบข้ออ้างที่ว่า ไวรัสอาจหลุดออกมาจากห้องแล็บด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งแล้วแพร่ไปทั่วโลก ถึงขณะนี้คร่าชีวิตประชาชน 3.8 ล้านคนแล้ว

ขณะที่จีนปฏิเสธว่าไวรัสไม่ได้หลุดจากห้องแล็บ และจีนไม่ได้จัดการผิดพลาดตอนที่โควิดระบาดใหม่ๆ เมื่อเดือน ธ.ค.2562

ส่วนฉีก็ตอบโต้ทุกข้อกล่าวหาที่มีต่อตัวเธอและห้องทดลองอู่ฮั่น “โลกกำลังโยนของเสียใส่นักวิทยาศาสตร์ผู้บริสุทธิ์คนหนึ่ง”

นักวิจัยเจ้าของฉายา “แบทวูแมน” จากงานที่เธอทำ ให้สัมภาษณ์อย่างที่ไม่ค่อยมีบ่อยนักกับนิวยอร์กไทม์สกล่าวว่า ไม่มีหลักฐานเรื่องที่ไวรัสหลุดจากห้องแล็บ

“โลกจะให้ดิฉันแสดงหลักฐานได้ยังไง ในเมื่อมันไม่เคยมีหลักฐาน ดิฉันไม่ทราบว่าโลกมาถึงจุดนี้ได้ยังไง โยนของเสียใส่นักวิทยาศาสตร์ผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างต่อเนื่อง”

ฉียังปฏิเสธด้วยว่า ไม่เคยทดลองนอกเหนือไปจากงานเพื่อทำให้ไวรัสติดเชื้อมากขึ้น ตามที่มีรายงานข่าวอย่างกว้างขวางว่าเกิดขึ้นที่แล็บอู่ฮั่น ปี 2560 เธอและทีมงานพิมพ์รายงานการทดลองสร้างไวรัสโคโรนาค้างคาวลูกผสมใหม่   ศึกษาความสามารถในการแพร่เชื้อและจำลองตัวเองในเซลล์ของมนุษย์

เพื่อทำความเข้าใจว่าไวรัสสามารถแพร่ข้ามสายพันธุ์ได้อย่างไร ไม่ใช่การพยายามทำให้ไวรัสอันตรายขึ้น

ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่า  เมื่อเดือน พ.ย.2562 เจ้าหน้าที่แล็บอู่ฮั่นป่วยด้วยอาการคล้ายโควิด

“ถ้าเป็นไปได้ คุณช่วยบอกชื่อสามคนนั้นมาได้มั้ย เพื่อช่วยเราเช็กข้อมูล” แบทวูแมนย้อนถาม 

ที่ผ่านมาจีนถูกกล่าวหามาตลอดว่าปกปิดหรือบิดเบือนบทบาทของตนช่วงโควิด-19 ระบาดใหม่ๆ ข้อกล่าวหาระบุว่า พรรคคอมมิสนิสต์ตกแต่งตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต ทั้งยังไม่ยอมส่งข้อมูลให้องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ)

เดอะซันระบุว่า ปักกิ่งเคยมีประวัติไวรัสมรณะหลุดจากห้องทดลองมาแล้ว และนักวิจารณ์ย้ำว่า พวกตนต้องกล่าวหาเพื่อความปลอดภัย

ปัจจุบันไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า จีนจงใจปล่อยไวรัส แต่วีดิโอที่น่าตกใจคลิปหนึ่งเผยภาพค้างคาวตัวเป็นๆ ถูกเก็บไว้ในแล็บอู่ฮั่น โดยมีนักวิทยาศาสตร์ป้อนอาหารพวกมัน คลิปนี้ดูราวกับว่าค้างคาวถูกเลี้ยงไว้ในสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่นแม้ว่านักวิทยาศาสตร์รายหนึ่งของดับเบิลยูเอชโอจะปฏิเสธก็ตาม

ด้านสกายนิวส์ออสเตรเลียเผยแพร่คลิปจากสถาบันวิทยาศาสตร์จีน (ซีเอเอส) เป็นภาพค้างคาวในกรงที่แล็บแห่งนี้เมื่อ 4 ปีก่อน นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งกำลังป้อนหนอนให้ค้างคาว  เชื่อกันว่าสัตว์ชนิดนี้เป็นแหล่งสะสมโควิดโดยธรรมชาติ

ก่อนหน้านี้ ดร.ปีเตอร์ แดสแซค หนึ่งในทีมสอบสวนต้นกำเนิดโควิดของดับเบิลยูเอชโอเคยอ้างว่า แล็บอู่ฮั่นไม่มีค้างคาวเป็น เขาเป็นประธาน EcoHealth Alliance ในสหรัฐ ที่ส่งเงินทุนจากรัฐบาลไปให้สถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น ทดลองเกี่ยวกับไวรัสโคโรนา

ตลอดเวลาที่ผ่านมาแดสแซคพยายามไม่ให้น้ำหนักกับความเชื่อที่ว่าไวรัสหลุดมาจากห้องแล็บ และเป็นบุคคลสำคัญที่มองข้ามเรื่องนี้โดยมองว่าเป็น “ทฤษฎีสมคบคิด”

เดือน ธ.ค. แดสแซคทวีตข้อความว่า ไม่มีการส่งค้างคาวไปแล็บอู่ฮั่นเพื่อวิเคราะห์ยีนไวรัสที่เก็บในภาคสนาม “นั่นไม่ใช่วิธีการทำงานทางวิทยาศาสตร์ เราเก็บตัวอย่างค้างคาวส่งไปห้องแล็บ ส่วนตัวค้างคาวก็ปล่อยในที่ที่จับมา”