ครึ่งปีหลัง ‘ประกันชีวิต’ ปรับพอร์ต ลุยบอนด์ยาว-หุ้นกู้

ครึ่งปีหลัง ‘ประกันชีวิต’ ปรับพอร์ต ลุยบอนด์ยาว-หุ้นกู้

“ประกันชวิต” ปรับพอร์ตลงทุนครึ่งปีหลัง รับเทรนด์บอนด์ยิลด์เพิ่มขึ้น “อลิอันซ์ฯ” เน้นลงทุนตราสารหนี้ระยะยาว-หุ้นกู้เสี่ยงต่ำ “ไทยประกันชีวิต” มั่นใจรีเทิร์นปีนี้สูงกว่าปีก่อนที่3.43% “โตเกียวมารีน” ทยอยเก็บหุ้นกู้เรตติ้งAเพิ่มขึ้นเป็นกว่า10%

นายสุรจักษ์ โกฏิกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารการลงทุน บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นโยบายบริษัทก็ยังคงมุ่งเน้นที่จะรักษาความสมดุลย์ระหว่างระยะเวลาสินทรัพย์และหนี้สินโดยเฉพาะการลงทุนตราสารหนี้ ถือว่ายังมีความเสี่ยงน้อยที่ผลตอบแทนจะปรับตัวลง ขณะที่ยังมีการลงทุนหุ้นกู้ที่มีความเสี่ยงต่ำ ยังให้ผลตอบแทนที่ดี เพื่อให้สอดคล้องกับผลตอบแทนตามความคุ้มครองที่ให้ไว้กับลูกค้า

“บริษัทมองการลงทุนตราสารหนี้ดีขึ้น จากการทรงตัวของดอกเบี้ยนโยบายน่าจะทำให้ดอกเบี้ยระยะสั้น ไม่ผันผวนมาก และการแพร่ระบาดของโควิด-19 หากไม่ได้เลวร้ายไปกว่านี้ คาดดอกเบี้ยระยะยาว มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีกตามการปรับขึ้นของพันธบัตรสหรัฐที่ได้ปรับตัวขึ้นมาระดับหนึ่ง”

ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เน้นรอจังหวะที่เริ่มเห็นความชัดเจนของการกระจายวัคซีน โควิด-19คลี่คลายและนโยบายการเปิดเมือง เป็นสัญญาณที่ดีที่เพิ่มน้ำหนักลงทุนในหุ้น หลังจากไตรมาสแรกปีนี้ปรับตัวขึ้นมามากแล้ว

ปัจจุบันพอร์ตการลงทุนของบริษัทราว 190,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนการลงทุนตราสารหนี้ 89% หุ้น 3% , กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน กองรีท 7% และอื่นๆ 1%

นางวรางค์ ไชยวรรณ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทเน้นการลงทุนในระยะยาว โดยสัดส่วนการลงทุนตราสารหนี้และหุ้นจะปรับเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้บริษัททยอยเพิ่มอายุเฉลี่ยตราสารหนี้ในพอร์ตมาอย่างต่อเนื่องเพื่อบริหารความเสี่ยง

บริษัทมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย จากมาตรการทางการเงินและการคลังภาครัฐเข้ามาสนับสนุนคาดแนวโน้มดอกเบี้ยจะมีทิศทางปรับตัวขึ้น รวมถึงผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนที่รายงานออกมาอยู่ในระดับที่ดี แม้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นล่วงหน้าไปแล้วก็ตาม

ปัจจุบันพอร์ตลงทุนของบริษัทราว 491,000 ล้านบาท มีสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ 86% และหุ้น 14% โดยในช่วงที่ผ่านมานี้พบว่าผลตอบแทนการลงทุนอยู่ในระดับที่น่าพอใจมากและคาดหวังผลตอบแทนการลงทุนในปี 2564 ดีกว่าปี 2563 อยู่ที่ 3.43% และสอดคล้องกับแบบประกันที่บริษัทนำเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต

นางสาวยุวดีเฉลิม ศรีภิญโญรัช รองกรรมการผู้จัดการ สายบริหารการเงิน บริษัท โตเกียวมารีน​ประกันชีวิต (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ช่วงที่เหลือปีนี้เน้นปรับพอร์ตลงทุนหุ้นกู้เรตติ้ง A ขึ้นไป ทยอยปรับสัดส่วนมากกว่า 10%ขึ้นไปจากปัจจุบัน 6% ปีนี้มุ่งรักษาระดับผลตอบแทนที่ดีไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่ 3-4%

และมีความสนใจเข้าลงทุนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวมากกว่า 15ปีขึ้นไป หากรัฐบาลมีการออกพันธบัตรรองรับพรก.กู้เงิน5แสนล้านบาท น่าจะทำให้ซัพพายในตลาดและบอนด์ยิลด์ปรับตัวขึ้นได้ ปัจจุบันพอร์ตลงทุนของบริษัทราว 32,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนลงทุนตราสารหนี้ 84% หุ้นกู้ 6%หุ้น3%อื่นๆ 7%