ราคาทองฟิวเจอร์ร่วง 13.30 ดอลล์-ตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งฉุดตลาด

ราคาทองฟิวเจอร์ร่วง 13.30 ดอลล์-ตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งฉุดตลาด

ราคาทองฟิวเจอร์ ปิดตลาดวันพุธ(12พ.ค.)ปรับตัวร่วงลง 13.30 ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนวิตกว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาดจะกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้

นอกจากนี้ ราคาทองยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 13.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,822.80 ดอลลาร์/ออนซ์

ทั้งนี้ การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย ส่วนการแข็งค่าของดอลลาร์จะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนเม.ย.ในวันนี้ โดยระบุว่า ดัชนีซีพีไอดีดตัวขึ้น 0.8% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนมี.ค.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนีซีพีไอพุ่งขึ้น 4.2% ซึ่งเป็นการดีดตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2551 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.6% หลังจากเพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนมี.ค.

นอกจากนี้ หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนีซีพีไอพื้นฐานพุ่งขึ้น 0.9% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%

เมื่อเทียบรายปี ดัชนีซีพีไอพื้นฐานพุ่งขึ้น 3.0% ในเดือนเม.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.3%

นักวิเคราะห์ระบุว่า การพุ่งขึ้นของดัชนีซีพีไอประจำเดือนเม.ย.เมื่อเทียบรายเดือน มีสาเหตุจากการดีดตัวขึ้นของราคาพลังงาน ส่วนการพุ่งขึ้นของดัชนีซีพีไอเมื่อเทียบรายปี มีสาเหตุจากการเปรียบเทียบกับตัวเลขฐานที่ต่ำผิดปกติในเดือนเม.ย.2563 ซึ่งขณะนั้นราคาสินค้าได้ทรุดตัวลงโดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และจากการประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด

และคาดว่าตัวเลขดัชนีซีพีไอ เมื่อเทียบรายปี จะถูกบิดเบือนจากความเป็นจริงต่อไปอีกหลายเดือน เนื่องจากมีการเปรียบเทียบกับราคาสินค้าที่ต่ำผิดปกติในปี 2563

ตลาดกังวลว่า ตัวเลขซีพีไอที่พุ่งขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ จะทำให้เฟดชะลอการผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ รวมทั้งลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการคิวอี เพื่อสกัดเงินเฟ้อ จากปัจจุบันที่เฟดทำคิวอีอย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน