เช็ค 'โควิดเชียงใหม่' วันนี้ติดเชื้อเพิ่ม ยอดรวม 3,183 ราย ลอบรวมกลุ่มเล่นพนันหลายพื้นที่

เช็ค 'โควิดเชียงใหม่' วันนี้ติดเชื้อเพิ่ม ยอดรวม 3,183 ราย ลอบรวมกลุ่มเล่นพนันหลายพื้นที่

ตรวจสอบเช็ค "โควิดเชียงใหม่" วันนี้ติดเชื้อเพิ่ม ยอดรวม 3,183 ราย ลอบรวมกลุ่มเล่นพนันหลายพื้นที่

รายงานสถานการณ์ COVID-19 จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 10 พ.ค. 64 พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่ม 22 ราย ยอดรวม 3,183 ราย

162063136212


เชียงใหม่พบมีการขยายวงผู้ติดเชื้อจากกลุ่มคลัสเตอร์ที่ดอยสะเก็ดและแม่วางอีก ขณะที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย จากการติดเชื้อภายในครอบครัว และมีการลักลอบรวมกลุ่มเล่นการพนันในหลายพื้นที่

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ รายงานจากศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวานนี้ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่

ร่วมกันแถลงสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 ระลอกเดือนเมษายนจังหวัดเชียงใหม่ประจำวัน นายกนก ศรีวิชัยนันท์ 25 ราย ซึ่งยังถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ทรงตัว โดยในรอบ 7 วันมียอดผู้ติดเชื้อต่ำกว่า 50 รายต่อวัน

ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 25 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 3,894 ราย ในจำนวนนี้รักษาหายแล้ว 3,132 ราย คิดเป็นร้อยละ 80 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด ยังคงมีผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกประเภท จำนวน 751 ราย คิดเป็นร้อยละ 20 และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 11 ราย ขณะที่กลุ่มผู้ติดเชื้อ ที่ยังรักษาตัวอยู่นั้น แยกเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย (สีเขียว) 562 ราย อาการปานกลาง (สีเหลือง) 117 ราย อาการค่อนข้างหนัก (สีส้ม) 47 ราย และอาการหนัก (สีแดง) 20 ราย

สำหรับการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงสูง หรือผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน เมื่อ 8 พ.ค. 2564 จากทุกหน่วยตรวจ 866 ราย จำนวนที่ตรวจพบน้อยลง แต่พบผลบวกเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.16 โดยสัดส่วนการตรวจพบเชื้อสูงสุดยังอยู่ที่โรงพยาบาลประจำอำเภอมากถึงร้อยละ 9.26 รองลงมาเป็นโรงพยาบาลเอกชน ร้อยละ 8.63 และหน่วยตรวจศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ ร้อยละ 6.55

เมื่อพิจารณาด้านความเสี่ยงพบว่าการสัมผัสภายในครอบครัว และการสัมผัสจากในชุมชน ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนการสัมผัสในที่ทำงาน และนำเข้าจากต่างจังหวัดลดน้อยลง ส่วนการสัมผัสในสถานบันเทิง ขณะนี้เป็น 0 เนื่องจากยังคงมีมาตรการในเรื่องของการปิดสถานบันเทิงอยู่ ขณะที่การตรวจเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยงวันนี้ ได้ทำการตรวจคัดกรองกลุ่มพนักงานดับเพลิง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งจะกักตัวครบ 14 วันในวันพรุ่งนี้ ส่วนผลการตรวจจะมีการแจ้งให้ทราบต่อไป


ไม่มีผู้ติดเชื้อกลุ่มใหม่ โดยกลุ่มผู้ติดเชื้อกลุ่มเดิม (คลัสเตอร์) ที่อำเภอดอยสะเก็ด มีการชี้แจงเรื่องการจัดงานเลี้ยงวันเกิด พบว่าเป็นเพียงงานเลี้ยงเล็ก ๆ ในครอบครัว แต่อย่างไรก็ตามช่วงนี้ไม่ควรจะมีการจัดงานใด ๆ ขึ้น โดยเฉพาะมีผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงยิ่งต้องงดกิจกรรมทุกประการ

และทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีมติให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ในการตรวจคัดกรองเชิงรุก พนักงานขับรถทัวร์ และพนักงานขับรถส่งของทุกบริษัทเพื่อเป็นการป้องกัน เฝ้าระวังต่อไป ส่วนกลุ่มผู้ติดเชื้ออีกกลุ่มที่อำเภอแม่วาง วันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 4 ราย เป็นการระบาดภายในครอบครัว แต่มีพื้นที่ในการระบาดเพิ่มขึ้น 4 แห่ง คือ ตำบลทุ่งปี้ อำเภอแม่วาง ตำบลบ้านกาด อำเภอแม่วาง ตำบลยางคราม อำเภอดอยหล่อ และจังหวัดลำพูน ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่จึงขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่บริเวณที่พบผู้ติดเชื้อให้เฝ้าระวังตนเอง สังเกตอาการ หากมีอาการของโรค สามารถติดต่อปรึกษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน พร้อมขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด งดการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มกัน สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า เว้นระยะห่าง และเชื่อว่าผู้ป่วยรายใหม่จะลดลงและเป็นศูนย์ในเร็ววัน


ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ได้ชี้แจงกรณีมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อีก 2 รายว่า รายแรกเป็นชายไทย อายุ 80 ปี มีโรคประจำตัวเป็นโรคไตวายเรื้อรัง โดยปัจจัยของการติดเชื้อเกิดจากการติดเชื้อภายในครอบครัว มีอาการไข้ ไอ หายใจเหนื่อย ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน ต่อมาวันที่ 27 เมษายน ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเชียงดาว มีอาการหายใจหอบเหนื่อยรุนแรง แพทย์จึงได้ทำการใส่ท่อช่วยหายใจและใช้เครื่องช่วยหายใจ จากนั้นได้ส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ตรวจพบจากภาพถ่ายรังสี ว่ามีภาวะปอดอักเสบ แพทย์จึงได้เริ่มให้ยาต้านไวรัสและยาต้านแบคทีเรียทันที ต่อมามีอาการติดเชื้อแบคทีเรียรุนแรงจึงได้เปลี่ยนยาปฏิชีวนะใหม่ เป็นยาที่ครอบคลุมเชื้อได้มากขึ้น ในวันที่ 6 พฤษภาคมผู้ป่วยมีอาการทรุดลง มีการติดเชื้อในกระแสโลหิตและมีภาวะเลือดเป็นกรด จึงได้ให้สารน้ำทดแทนเพิ่มเติม และให้ยากระตุ้นความดันโลหิต และในวันที่ 7 พฤษภาคม อาการผู้ป่วยรุนแรงมากขึ้น ระดับความรู้สึกตัวลดลง และความดันโลหิตต่ำมาก แพทย์จึงได้เพิ่มยากระตุ้นความดันโลหิตจนถึงจำนวนสูงสุดที่จะเพิ่มได้แล้ว แต่ผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อยาที่ให้ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ผู้เสียชีวิตอีกรายเป็นหญิงไทย อายุ 67 ปี มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง โดยปัจจัยของการติดเชื้อเกิดจาการติดเชื้อภายในครอบครัวอีกเช่นกัน ซึ่งในวันที่ 22 เมษายน ได้รับการตรวจหาเชื้อโควิดแล้วพบว่ามีผลเป็นบวก จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามและส่งเข้าโรงพยาบาลสันทราย จากนั้นมีอาการไอหายใจเหนื่อย จึงส่งตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ แรกรับมีอาการหายใจเร็วเริ่มยาต้านไวรัสชนิดฉีด ยาปฏิชีวนะและยาลดการอักเสบของปอดในทันที รวมถึงได้ทำการฟอกเลือดเพื่อขับของเสียที่ส่งผลให้มีการอักเสบของปอดออกจากร่างกายรวมด้วย วันที่ 6 พฤษภาคมผู้ป่วยมีอาการทรุดลง หายใจหอบ ออกซิเจนต่ำลงอย่างมาก จึงได้ทำการใส่ท่อช่วยหายใจและต่อเครื่องช่วยหายใจ เพื่อประคับประคองอาการทางปอด และในวันที่ 7 พฤษภาคมผู้ป่วยเริ่มไม่รู้สึกตัว มีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งคาดว่าเกิดจากเชื้อไวรัส หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ แพทย์ได้ทำให้สารน้ำ ยากระตุ้นความดันโลหิต และยารักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ และท้ายที่สุดคลำชีพจรผู้ป่วยไม่ได้ แพทย์ผู้รักษาได้ทำการการปั๊มหัวใจ ใช้เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจ เป็นเวลานานถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่ผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการรักษาและเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา โดยขณะนี้พบว่า แม้จำนวนผู้ป่วยใหม่จะลด แต่ยังคงมีผู้ป่วยหนักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และโรงพยาบาลนครพิงค์ ซึ่งทางคณะแพทย์ทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อรักษาทุกชีวิตไว้ให้ได้


ในการนี้ นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ ได้เน้นย้ำการปฏิบัติในพื้นที่หมู่บ้านชุมชน เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อของจังหวัดเชียงใหม่ที่เพิ่มขึ้นนั้น ส่วนมากเกิดจากการสัมผัสการติดเชื้อในครอบครัวและในชุมชน ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนคำสั่งของจังหวัดเชียงใหม่และกฎหมาย มีการลักลอบเล่นการพนัน มีการรวมกลุ่มคน ถือเป็นการเพิ่มการสัมผัสที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ ทั้งนี้จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีมาตรการเข้มงวดที่จะดำเนินการจับกุม และกวดขันผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย โดยเมื่อวานนี้กลุ่มงานปกครองจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับทาง สถานีตำรวจภูธรแม่ปิง จับกุมโต๊ะพนันบอลในพื้นที่ ซึ่งระหว่างการตรวจค้นพบมีคนเดินเข้าออกสถานที่ดังกล่าวจำนวนมาก


ขณะเดียวกันฝ่ายปกครองอำเภอสันทราย ร่วมกับทางสถานีตำรวจภูธรแม่โจ้ จับกุมผู้ลักลอบเล่นการพนันตู้สล็อตและตู้เกม หน้าสถานบริการแห่งหนึ่งโดยพบการรวมกลุ่มคนเช่นกัน ถือว่าทั้งสองจุดเป็นจุดที่มีความเสี่ยง ดังนั้นต้องขอความร่วมมือทุกภาคส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ให้ช่วยกันสอดส่องดูแล โดยเฉพาะผู้นำท้องที่ท้องถิ่นต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา มิให้มีการฝ่าฝืนและมีการกระทำผิดกฎหมายในพื้นที่อย่างเด็ดขาด