'ชาญศิลป์' ชี้สัญญาณบวกโหวตแผนฟื้นฟู ประชุมเจ้าหนี้ 'การบินไทย' 12 พ.ค.

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผย 'กรุงเทพธุรกิจ' ว่า การประชุมวันที่ 12 พ.ค.2564 จะออกเสียงแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งที่ผ่านมาผู้ทำแผนได้เจรจาเจ้าหนี้ทั้ง 36 กลุ่มแล้ว แบ่งเป็น เจ้าหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน อาทิ สถาบันทางการบิน เจ้าหนี้เครื่องบิน รวมไปถึงเจ้าหนี้ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน

“เจ้าหนี้ทั้งหมด 36 กลุ่มรับเรื่องแล้วว่าการบินไทยกำลังเสนอแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งเจ้าหนี้ทุกกลุ่มคงพิจารณาอยู่ว่าจะเห็นสมควรตามแผนที่เสนอหรือไม่ ซึ่งเราเสนอไปทั้งการลดดอกเบี้ยและการยืดหนี้ แต่ส่วนตัวมั่นใจว่าเจ้าหนี้จะสนับสนุนเพราะจากการเจรจามีสัญญาณดีมาตลอด”

ทั้งนี้ ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการนั้น การบินไทยระบุถึงความเสี่ยงทางธุรกิจเพื่อแจ้งให้เจ้าหนี้ทราบชัดเจน และแม้ว่ายังมีความเสี่ยงที่ควบคุมไม่ได้ เช่น โรคโควิด-19 ที่เป็นความเสี่ยงต่อการเปิดประเทศ การกลับไปทำการบินอีกครั้ง แต่การบินไทยประเมินเบื้องต้นในแผนฟื้นฟูว่า ภายหลังเดินหน้าแผนระยะ 1-3 ปี ยังอยู่ช่วงล้มลุกคุกคลาน และ 3-5 ปี หลังจากนั้นจะเริ่มกลับมามีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA)

ลุ้นประชุมเจ้าหนี้ 12 พ.ค.นี้

สำหรับวันที่ 12 พ.ค.นี้ มีวาระการพิจารณา อาทิ การสอบถามเจ้าหนี้ว่าต้องการแก้ไขแผนฟื้นฟูหรือไม่ และเจ้าหนี้ส่วนใหญ่ยอมรับข้อเสนอของการแก้ไขแผนฟื้นฟูหรือไม่ รวมทั้งจะเสนอรายชื่อผู้บริหารแผนเพิ่มเติมจากเจ้าหนี้ รวมทั้งเสนอตั้งคณะกรรมการเจ้าหนี้ที่จะเป็นผู้แทนติดตามการฟื้นฟูกิจการ และวาระการลงคะแนนเห็นชอบแผนฟื้นฟูการบินไทย

ส่วนผู้บริหารที่การบินไทยเสนอมี 2 คน คือ 1.นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ผู้จัดทำแผนฟื้นฟู 2.ผู้แทนจากกระทรวงการคลัง ที่จะมาแทนนายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ที่เกษียณอายุราชการและกระทรวงการคลังต้องการเสนอรายชื่อผู้บริหารแผนคนใหม่

“วาระข้อเสนอเจ้าหนี้ที่จะขอปรับแก้ไขแผนฟื้นฟู เจ้าหนี้ส่งรายละเอียดแก้ไขแผนให้กรมบังคับคดีภายในวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นกรมบังคับคดีนำข้อเสนอมาพิจารณาวันที่ 12 พ.ค.นี้ โดยส่วนตัวเชื่อว่ามีบางคนที่ไม่ยอมรับแผนฟื้นฟูและเสนอแก้ไขแผน แต่จะมีการโหวตให้ผ่านจากเจ้าหนี้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับเรื่องนั้นมีนัยยะสำคัญอย่างไร”

ทั้งนี้ กรณีเจ้าหนี้โหวตให้แผนฟื้นฟูการบินไทยไม่ผ่านการอนุมัตินั้น จะมีกระบวนการสอบถามให้เจ้าหนี้ตั้งผู้ทำแผนใหม่ และเปิดโอกาสให้ทำแผนฟื้นฟูใหม่ ดังนั้นเมื่อแผนฟื้นฟูไม่ผ่านการอนุมัติในวันที่ 12 พ.ค.นี้ การบินไทยยังไม่เข้าขั้นตอนล้มละลายหรือต้องขายสินทรัพย์ใช้หนี้ อีกทั้งยังมีกระบวนการศาลล้มละลายกลางที่จะพิจารณาผลการประชุมเจ้าหนี้ครั้งนี้ และกำหนดตัดสินวันที่ 28 พ.ค.นี้

นายชาญศิลป์ กล่าวถึงกรณีการหารือของรัฐบาลในการนำการบินไทยกลับเป็นรัฐวิสาหกิจ ว่า การบินไทยจะกลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่นั้น ต้องรอผลการโหวตจากเจ้าหนี้วันที่ 12 พ.ค.นี้

ทั้งนี้ การบินไทยยอมรับว่าภายหลังแผนฟื้นฟูผ่านการเห็นชอบจากเจ้าหนี้ การบินไทยต้องหาเงินใหม่เพื่อนำมาบริหารจัดการธุรกิจ ทั้งค่าใช้จ่ายซ่อมอากาศยานและค่าใช้จ่ายดำเนินงาน

“เราต้องหาเงินใหม่ก้อนหนึ่งเข้ามาบริหารธุรกิจ ซึ่งมีความเป็นไปได้อยู่ 2 แนวทาง คือ เงินกู้กับหุ้นกู้ จะเป็นการกู้เงินหรือเพิ่มทุน สิ่งเหล่านี้ก็แล้วแต่ว่าจะเป็นทางภาครัฐ ธนาคาร หรือหุ้นกู้ คงต้องรอการโหวตจากเจ้าหนี้ก่อน โดยหลังจากการประชุมเจ้าหนี้ ศาลจึงจะตัดสินว่ารับหรือไม่รับแผนฟื้นฟู ในวันที่ 28 พ.ค.2564”

สำหรับแผนการปรับโครงสร้างหนี้ของการบินไทย ที่ได้เจรจากับเจ้าหนี้ไปนั้น ไม่ได้ขอลดมูลค่าหนี้คงค้าง (แฮร์คัท) แต่จะเป็นการปรับผ่อนจ่ายยืดหนี้ออกไป อีกทั้งการแปลงหนี้เป็นทุนถือเป็นออฟชั่นเสริม ส่วนการเพิ่มทุน เบื้องต้นปประเมินว่าการบินไทยจำเป็นต้องหาแหล่งเงินเพิ่มไม่น้อยกว่า 5 หมื่นล้านบาท