กลุ่ม กฟผ. อัดงบอีก 81 ล้านบาท ช่วยประเทศฝ่าวิกฤตโควิด-19

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด-19 ระลอกใหม่ที่ยังคงวิกฤต เนื่องจากยังพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดพบการระบาดไปยังคลัสเตอร์ใหม่ในพื้นที่ชุมชนคลองเตย กรุงเทพมหานคร กฟผ. และบริษัทในกลุ่ม กฟผ. ได้แก่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) และบริษัท กฟผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ระดมงบประมาณเพิ่มเติมอีก 81 ล้านบาท เพื่อร่วมบริจาคให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ หวังให้ทีมแพทย์ทำงานได้อย่างคล่องตัว และมีความปลอดภัย ทั้งนี้ กฟผ. ได้ประสานตรงไปยังโรงพยาบาล เพื่อสำรวจความต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นต้องใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อให้ความช่วยเหลือเป็นไปด้วยความรวดเร็วและครอบคลุมทุกพื้นที่

วันนี้(5 พ.ค.) นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ได้มอบเงินสนับสนุนให้กับโรงพยาบาลแล้ว 2 แห่งแรก ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อให้โรงพยาบาลได้นำไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นต่อการรักษาผู้ป่วยโควิด-19

 

รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบัน อุปกรณ์ทางการแพทย์มีความสำคัญมาก โดยทุกโรงพยาบาลจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ที่ครบครัน เช่น เครื่องช่วยหายใจ เพื่อใช้ช่วยชีวิตคนไข้ได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเพื่อรักษาและเปลี่ยนคนไข้จากกลุ่มสีแดง ที่มีอาการรุนแรง เพื่อไปยังกลุ่มสีเหลือง ซึ่งมีอาการไม่รุนแรง ให้ผ่านวิกฤตและปลอดภัย จนไปสู่กลุ่มสีเขียว ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้อุปกรณ์ทางการแพทย์ ยังช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อไปยังบุคลากร เพื่อให้ทีมแพทย์ปลอดภัย และสามารถทำหน้าที่รักษาคนไข้ต่อไปได้

นอกจากนี้ ภายในสัปดาห์นี้จะดำเนินการส่งมอบเงินสนับสนุนให้กับ 6 โรงพยาบาล ประกอบด้วย โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลวชิรพยาบาล โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า และโรงพยาบาลสิรินธร รวมจำนวนเงินที่จะส่งมอบภายในสัปดาห์นี้ทั้งสิ้น 13.3 ล้านบาท

ปัจจุบัน มีโรงพยาบาล จำนวน 149 แห่ง 77 จังหวัด ที่ได้แสดงความประสงค์ขอรับการสนับสนุนจากกลุ่ม กฟผ. ซึ่ง กฟผ. และบริษัทในกลุ่ม จะเร่งส่งมอบเงินสนับสนุนให้แก่โรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด