ตายพุ่งอีก! ยอด ‘โควิด-19’ วันนี้ พบติดเชื้อเพิ่ม 2,438 ราย ตายเพิ่มถึง 11 ราย

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 ล่าสุด วันที่ 25 เม.ย. 64 สถานการณ์ยิ่งทรุดลงอย่างต่อเนื่อง โดยยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พบสูงถึง 2,438 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมแล้วจนถึงวันนี้ 55,460 ราย มียอดผู้เสียชีวิตต่อเนื่อง โดยวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มถึง 11 ราย และหายป่วยแล้ว 547 ราย

ทั้งนี้ เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,433 ราย เป็นผู้ป่วยใน กทม. 1,078 ราย โดยมีการค้นหาเชิงรุก 282 ราย เป็นผู้ป่วยในระบบบบริการและสอบสวนโรค 2,151 ราย 

ส่วนสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 64 ถึง 25 เม.ย. 64 พบจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่ม 2,438 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ มีผู้ติดเชื้อสะสมไปแล้ว 26,597 ราย อาการหนัก 507 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 138 ราย

สำหรับความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 นั้น ในรายงานวันที่ 24 เม.ย.64 ระบุว่า มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว 14,675 ราย มีผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว 14,033 ราย ทำให้มียอดผู้ได้รับวัคซีนสะสม ตั้งแต่ 28 ก.พ. - 24 เม.ย. 64 ไปแล้ว เข็มแรก 949,124 ราย (บุคลากร สธ. 495,775 ราย) ฉีดครบ 2 เข็ม 175,029 ราย

อย่างไรก็ตาม หมอยง - นพ.ยง ภู่วรวรรรณ ได้ย้ำผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า โควิด-19 ระบาดในประเทศไทยแพร่กระจายและติดต่อได้ง่าย โดยระบุว่า "สายพันธุ์อังกฤษ" แพร่กระจายได้ง่ายและรวดเร็วกว่า ตัวอย่างที่เห็นชัดก็ในประเทศอังกฤษ ในเดือนธันวาคม ทำให้ระบบการแพทย์ของอังกฤษแทบล้มเหลว สายพันธุ์เดิมสมมติว่าต้องรับเชื้อ 100 ตัวจึงจะติดและเกิดโรคได้ สายพันธุ์ใหม่หรือสายพันธุ์อังกฤษ การรับเชื้ออาจจะเหลือแค่ 50 ตัวก็สามารถติดและเกิดโรคได้

"โควิด" สายพันธุ์นี้เกาะติดกับเซลล์ของเราได้ดีกว่าสายพันธุ์เดิมจึงแพร่กระจายได้ง่ายอย่างที่เห็น มาตรการที่ใช้ในการป้องกันต้องมากกว่าสายพันธุ์เดิม การระบาดในวงจรแรกจะอยู่ใน "สถานบันเทิง" และจะอยู่ในตัวเมืองใหญ่ การแพร่กระจายจะออกนอกตัวเมืองใหญ่ไปยังตัวเมืองต่างจังหวัดในวงจรต่อๆ ไปและจากต่างจังหวัดในตัวเมืองก็จะเริ่มออกสู่อำเภอและตำบลและจะลงสู่หมู่บ้าน 

ปัจจัยสำคัญของการระบาดระลอกใหม่ครั้งนี้อยู่ที่อาการ และเชื้อโควิด-19 ซึ่งที่ผ่านมา การระบาดครั้งที่ 1 และ2 นั้น ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 จะแสดงอาการตั้งแต่ระดับความรุนแรงน้อยไปถึงระดับความรุนแรงมาก ไม่ว่าจะเป็น การคัดจมูก เจ็บคอ ไอ และมีไข้ ส่วนบางรายที่มีอาการรุนแรงมาก จะมีอาการปอดบวม หรือหายใจลำบากร่วมด้วย

โดยอาการที่พบบ่อยที่สุด คือ มีไข้ (ไข้สูงติดต่อกัน 48 ชั่วโมง), ไอแห้งๆ, ไม่มีเรี่ยวแรง หอบเหนื่อย, ไอมีเสมหะ, หายใจลำบาก, เจ็บคอ, ปวดหัว, จมูกไม่ได้กลิ่น, ลิ้นไม่รับรส 

แต่ในรอบนี้พบ "อาการโควิดใหม่" เพิ่มเติม คือ หลายรายมีอาการ "ตาแดง" "น้ำมูกไหล" "ไม่มีไข้" บางรายมี "ผื่นขึ้น"