เดินหน้า 'ฟ้าทะลายโจร' รักษาผู้ป่วยโควิดระยะต้น ทั่วประเทศ

เดินหน้า 'ฟ้าทะลายโจร' รักษาผู้ป่วยโควิดระยะต้น ทั่วประเทศ

หลังจากที่กรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้ทำการศึกษาวิจัยสรรพคุณ "ฟ้าทะลายโจร" และพบว่าสามารถยับยั้งความรุนแรงของโควิด 19 ในผู้ป่วยระยะต้นมากกว่า 300 รายได้ ทำให้ในขณะนี้ ฟ้าทะลายโจร กลายเป็นอีกทางเลือกในการใช้ทดแทนการนำเข้ายาจากต่างประเทศ

เนื่องจากผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศระลอกเดือนเมษายน เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระทรวงสาธารณสุข จึงต้องวางแนวทางในการดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล การรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับ เตรียม “ยาฟาวิพิราเวียร์” ไว้กว่า 4 แสนเม็ด รวมถึงสั่งซื้อเพิ่มอีก 5 แสนเม็ด และสำรองในสต๊อก 3.5 ล้านเม็ด

ฟ้าทะลายโจร เป็นอีกทางเลือกที่ได้รับการยอมรับและนำไปรักษาควบคู่กับแพทย์แผนปัจจุบัน โดยที่ผ่านมา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ศึกษาวิจัยฟ้าทลายโจรที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ในผู้ป่วยอาการไม่หนัก จำนวน 309 ราย พบว่า สามารถยับยั้งความรุนแรงของโควิด 19 ได้ แต่ยังไม่สามารถป้องกันโควิดได้

  • ส่งมอบ "ฟ้าทะลายโจร" 6 แสนแคปซูล สู้โควิด

ล่าสุด วันที่ 22 เม.ย 64 กรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้จัดพิธีมอบยาฟ้าทะลายโจร เพื่อนำไปใช้สำหรับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ในพื้นที่ระบาดทุกจังหวัด ณ กระทรวงสาธารณสุข ปริมาณ 20 มก. จำนวน 6 แสนแคปซูล สำหรับผู้ป่วยกว่า 15,000 ราย แก่หน่วยงานสาธารณสุขทั่วประเทศ เพื่อร่วมรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 

161908140757

“อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วโลกเผชิญกับโควิด 19 ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต สังคม สภาพจิตใจ การดูแลผู้ป่วยควบคุมการระบาด การค้นคว้าวิจัยพัฒนายาทุกชนิด รวมถึงฟ้าทะลายโจรที่เป็นสมุนไพร ที่คนทั่วไปยอมรับ ถือเป็นภารกิจสำคัญของ สธ. วันนี้คนไทยส่วนใหญ่เชื่อมั่นในสรรพคุณฟ้าทะลายโจร ในการรักษาหวัดเป็นสำคัญ ทำให้ฟ้าทะลายโจรเป็นทางเลือกสำคัญ

“โควิด 19 ไม่ได้ระบาดแค่ที่ไทย แต่ระบาดทั่วโลก ไม่สามารถวางใจได้ว่าจะเข้าถึงยารักษาโควิด 19 ได้สะดวกรวดเร็วอย่างที่ผ่านมา จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งหากมียาที่สามารถผลิตได้เองในไทย และมีสรรพคุณรักษาโควิด 19 ฟ้าทะลายโจร มีสรรพคุณเป็นยาสามัญประจำบ้าน สามารถนำมาใช้ในระบบยาหลักแห่งชาติ และ สธ. สนับสนุนให้ รพ.ทุกแห่งนำฟ้าทลายโจรใช้ลดความรุนแรงของผู้ป่วยโควิด 19 ประหยัดเงินการนำเข้ายาที่จะรักษาผู้ป่วยจำนวนมาก พร้อมกับเป็นการพัฒนาข้อมูลการวิจัยให้เกิดความมั่นใจว่าเป็นยาหลักในการรักษาผู้ป่วยอย่างแท้จริง” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สธ. มอบ 'ฟ้าทะลายโจร' 6 แสนแคปซูล รักษาโควิด 19

 

  • ผลการศึกษา "ฟ้าทะลายโจร" ได้ผลดี

การศึกษาวิจัยสรรพคุณ "ฟ้าทะลายโจร" ในการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 ที่อาการไม่หนัก โดย กรมการแพทย์แผนไทยฯ พบว่า สารสำคัญแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ในฟ้าทะลายโจรน่าจะมีศักยภาพในการช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโคโรนาเข้าเซลล์และป้องกันการแบ่งตัวของโคโรนาไวรัสได้ ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จึงได้ร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ดำเนินการศึกษานำร่องผลของยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรขนาดสูง ต่อผู้ป่วยโรคโควิด-19 หลังจากการวิจัยในหลอดทดลอง พบว่า มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อและยังยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้

"พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์" อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ระบุว่า ในการแพร่ระบาดระลอกล่าสุดของโรคไวรัสโควิด–19 ในช่วงเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ทางกรมฯ ได้ร่วมมือกับ 9 โรงพยาบาลของรัฐ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกระบวนการศึกษาวิจัย โดยได้จ่ายยาฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วย โควิด–19 ที่มีอาการรุนแรงน้อย ร่วมกับการรักษาทางแพทย์แผนปัจจุบัน จำนวน 309 ราย พบว่า ผู้ป่วย 306 ราย อาการดีขึ้นชัดเจน จนสามารถออกจาก รพ. ได้ ส่วนอีก 3 ราย เป็นกลุ่มที่มีอาการแย่ลง มีภาวะปอดบวม คิดเป็นผู้ป่วยอาการแย่ลง 0.97% แต่ที่สุดก็รักษาหาย ไม่มีใครเสียชีวิต

161908142232

ขณะที่ผู้ป่วยที่ไม่ได้รับฟ้าทะลายโจร เป็นกลุ่มผู้ป่วยอาการไม่รุนแรงเช่นกัน จำนวน 526 ราย มี 77 ราย ที่เกิดอาการแย่ลง มีภาวะปอดบวมคิดเป็น 14.64% ดังนั้น ฟ้าทะลายโจรมีแนวโน้มและโอกาสในการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 ระยะเบื้องต้น และยังไม่มีข้อมูลใดที่บ่งชี้ว่าไม่ได้ผล ในทางกลับกันข้อมูลในห้องปฏิบัติการ การศึกษาในระดับเซลล์ และในต่างประเทศ ล้วนสนับสนุนว่า ฟ้าทะลายโจรมีประโยชน์ในการรักษาโควิด 19 และเชื้อไวรัสอื่นๆ ด้วย

ในการศึกษาวิจัย ในผู้ป่วยโควิด 19 ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อย ที่มีอาการคล้ายไข้หวัด ให้รับประทานฟ้าทะลายโจรที่มีแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ขนาด 180 มิลลิกรัมต่อวัน รับประทาน 3 เวลาก่อนอาหาร ต่อเนื่อง 5 วัน เพื่อลดความรุนแรงและอาการแทรกซ้อนของโรค

  • "ฟ้าทะลายโจร" ทดแทนยานำเข้า 

“ฟ้าทะลายโจร ปลูกง่าย ราคาถูก จากการเปรียบเทียบในยาชนิดอื่นที่ผู้ป่วยโควิดใช้ต่อราย พบว่า พาราเซตามอล ราคา 60 บาท ผลที่ได้ คือ ลดไข้ , ฟ้าทะลายโจร 180 บาท (ใช้ 5 วัน) ผลที่ได้ คือ ลดไข้ ต้านการอักเสบ ฆ่าเชื้อไวรัส ขณะที่ ฟาวิพิราเวียร์ 4,800 บาท ผลที่ได้ ฆ่าเชื้อไวรัส ดังนั้น การใช้ฟ้าทะลายโจรน่าจะเป็นทางเลือกในการยุติโรค และลดการใช้ฟาวิพิราเวียร์ ลดอัตราการเสียชีวิต ลดการเข้าไอซียูซึ่งต้องใช้มูลค่าหลักล้านต่อราย อย่างไรก็ตาม ต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ และ ใช้เพียง 5 วันเท่านั้น”

“ทิศทางการเดินหน้าของงานวิจัย จากการระบาดครั้งใหม่ น่าจะเป็นโอกาสที่ดี ใช้วิกฤติให้เกิดการเรียนรู้ รวมถึงมีการขยายการวิจัยไปยัง รพ.สนาม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง หากมีความก้าวหน้า จะมีการหยิบยกผลลัพธ์ มาเผยแพร่และให้รับทราบต่อไป” พญ.อัมพร กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

 

  • ม.รังสิต ส่งมอบ "ฟ้าทะลายโจร" 2 แสนเม็ด

ขณะเดียวกัน วันที่ 18 เม.ย64 ที่ผ่านมา “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” คณะบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต รายงาน ความคืบหน้าการใช้ฟ้าทะลายโจร กับผู้ป่วยโควิด 19 โดยอ้างอิงจากการประชุมหารือ การออกหน่วยแพทย์แผนไทยเพื่อจ่ายยาสมุนไพรไทยให้กับผู้ป่วยโควิด-19 ณ โรงพยาบาลสนาม เมื่อวันที่ 16 เมษายน ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า จากการประชุมในเรื่องการแพทย์แผนไทยกับโควิด 19 โดยประชุมหารือเรื่องการออกหน่วยแพทย์แผนไทย เพื่อจ่ายสมุนไพรให้กับผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาอาการป่วย ณ โรงพยาบาลสนาม มีเนื้อหาสาระสรุปเบื้องต้นได้ว่า

1.1 จะเริ่มใช้ "ฟ้าทะลายโจร" กับผู้ที่ถูกกักตัวที่โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ โดยความสมัครใจของผู้ที่ถูกกักตัว โดยความร่วมือเป็นอย่างดีจากโรงพยาบาล ทั้งนี้ ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกได้เริ่มส่งฟ้าทะลายโจรให้แล้ว

1.2 จะเริ่มใช้ “การแพทย์แผนไทย” ตามแนวทางของพระคัมภีร์ตักกะศิลา ว่าด้วยโรคระบาด (กระทุ้งพิษไข้, แปรภายใน, ครอบไข้) ซึ่งไม่ได้ใช้ฟ้าทะลายโจร โดยจะเริ่มที่โรงพยาบาลสนามจังหวัดเพชรบุรีที่ยินดีให้ใช้แนวทางดังกล่าว

ทั้งรูปแบบข้อ 1.1 และ 1.2 จะจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบ R2R (การพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย) และติดตามผลเพื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ใช้ยาฟ้าทะลายโจร หรือยาแผนไทย แล้วจะพยายามหาหนทางเพื่อตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ในระดับสากลต่อไป

ขณะที่ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ได้ประกาศผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 17 เม.ย 64 ว่า “มหาวิทยาลัยรังสิตขอมอบยาฟ้าทะลายโจรผลิตโดย RSU Sun Herb Manufacturing 200,000 เม็ด ให้กระทรวงสาธารณสุขเพื่อรักษาผู้ป่วยโควิดทั่วประเทศ"

  • การรับประทานฟ้าทะลายโจร

ฟ้าทะลายโจรในตลาดมี 2 ชนิด คือ แบบสกัดและแบบบดผง ประชาชนสามารถใช้ได้ทั้ง 2 แบบ สรรพคุณทั่วไป คือ ใช้เมื่อมีอาการป่วย ไข้ ไอ เจ็บคอ ปริมาณการรับประทานก็แตกต่างกันไป ถ้าเป็นแบบผงไม่ว่าในรูปแบบยาเม็ดหรือ แคปซูล ต้องดูข้างกล่องว่าให้รับประทานอย่างไร เพราะตัวยาแต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกัน

ส่วนอีกรูปแบบหนึ่ง คือ แบบสารสกัด จะรับประทานจำนวนน้อยกว่าแบบผง แต่ทั้งสองแบบหากเป็นไข้ ไอ เจ็บคอ ก็หาซื้อมารับประทานได้ ขอยืนยันว่าฟ้าทะลายโจรเป็นยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ หาซื้อได้ตามร้านขายยา ร้านสะดวกซื้อ หรือ ตามโรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศที่มีคลินิกการแพทย์แผนไทย แต่ยาทุกชนิดต้องใช้ให้ถูกต้อง ถูกขนาด ถูกอาการ

ขณะที่ การส่งเสริมภูมิคุ้มกัน รับประทาน 20 มก.ต่อวัน ติดต่อกันไม่เกิน 5 วัน หยุด 2 วัน ต่อเนื่องไม่เกิน 3 เดือน ทั้งนี้พึงระวังอาการข้างเคียงอื่นๆ ด้วย โดยการศึกษาที่ชิลี เมื่ออาสาสมัครกินยาในลักษณะนี้ กลุ่มตัวอย่างมีการติดเชื้อหวัดลดลงชัดเจน ศึกต้องมีการศึกษาต่อไป

ในส่วนของการ ใช้รักษาผู้ป่วยไข้หวัด ทานปริมาณ 60 มก.ต่อวัน (ครั้งละ 20 มก. 3 ครั้ง) และ การศึกษารักษากลุ่ม โควิด 19 ปริมาณ 180 มก. ต่อวัน (ครั้งละ 60 มก. 3 ครั้ง) ควรใช้ไม่เกิน 5 วัน ภายใต้คำแนะนำของแพทย์

ทั้งนี้ ไม่ควรใช้ในผู้ที่มีอาการแพ้ฟ้าทะลายโจร หญิงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร และควรระวังการใช้ยานี้ร่วมกับยาวาร์ฟาริน แอสไพริน โคลพิโดเกรล ยาลดความดันโลหิต และไม่ควรใช้ติดต่อกันนานเกินไป เพราะอาจมีอาการชาตามมือตามเท้า และมีปัญหากับตับ ไต ได้ หากอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน ควรรีบไปตรวจพบแพทย์ และปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

สอบถามได้ที่ สายด่วนฟ้าทะลายโจร โทร. 065 504 5678 หรือ ช่องทาง www.facebook.com/dtam.moph และ Line @DTAM