‘จุรินทร์’ ตั้งเป้าโกยยอดขายจับคู่ธุรกิจออนไลน์ 1.6 หมื่นล้าน

(ชมคลิปข่าวด้านล่าง) “จุรินทร์” ชี้ ส่งออกไทยพ้นจุดต่ำสุดคาดตัวเลข มี.ค.64 บวกไม่น้อยกว่า 8% เตรียมลุยจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์เพิ่มยอด ตั้งเป้าปีนี้ขายได้ไม่ต่ำกว่า 16,000 ล้าน

“จุรินทร์” ชี้ ส่งออกไทยพ้นจุดต่ำสุดคาดตัวเลข มี.ค.64 บวกไม่น้อยกว่า 8% เตรียมลุยจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์เพิ่มยอด ตั้งเป้าปีนี้ขายได้ไม่ต่ำกว่า 16,000 ล้าน มีแผนจัดในช่วง 9 เดือนที่เหลือ 85 ครั้ง เผยจะช่วยเอสเอ็มอี ไมโครเอสเอ็มอีให้มีโอกาสส่งออกด้วย  
         
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวระหว่างการมอบนโยบายให้กับทีมเซลส์แมนจังหวัดว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ประเมินร่วมกับภาคเอกชน ทั้งสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และภาคเอกชนส่วนอื่นๆ เห็นตรงกันว่าส่งออกของไทยได้พ้นจุดต่ำสุดมาแล้ว และกำลังจะทะยานขึ้น สามารถทำตัวเลขส่งออกดีขึ้นเป็นลำดับ หลังจากที่ทำตัวเลขต่ำสุดในช่วงที่เจอวิกฤตโควิด-19 สงครามการค้า เศรษฐกิจโลกชะลอตัวเมื่อกลางปีที่แล้ว โดยคาดว่าการส่งออกเดือนมี.ค.2564 จะบวกไม่น้อยกว่า 8% ซึ่งตัวเลขส่งออกจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการวันที่ 23 มีนาคม 2564
         
สำหรับแผนการเพิ่มรายได้จากการส่งออกที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกผ่านระบบการเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ มีผลให้ยอดส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะหลังวิกฤตโควิด-19 ได้ร่วมมือกับเอกชนปรับรูปแบบเจรจาเพื่อการส่งออก นำรายได้เข้าประเทศ มาใช้ระบบออนไลน์มากขึ้น และช่วงหลังนี้ ดูเหมือนใช้เกือบจะเต็มรูปแบบ เพราะไม่มีทางอื่น โดยมีการนำนวัตกรรมทางการตลาดรูปแบบใหม่ๆ มาใช้เป็นรูปแบบไฮบริด เช่น โครงการ Mirror Mirror ที่เป็นการส่งตัวอย่างสินค้าไปแสดงที่ประเทศปลายทาง และเมื่อมีผู้ซื้อ ผู้นำเข้าสนใจ ก็เจรจาธุรกิจผ่านทางออนไลน์ รวมทั้งได้เพิ่มกิจกรรมการเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ ซึ่งผู้ซื้อ ผู้นำเข้ารออยู่ในประเทศตัวเอง ทีมเซลส์แมนประเทศจะเป็นผู้ประสานงานให้ แล้วมาเจรจาซื้อขายกับผู้ส่งออกของไทย ปรากฏว่าได้ผลเป็นอย่างดี
         
อย่างไรก็ตาม ปีที่แล้วเฉพาะการเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ ทำยอดขายได้ 15,000 ล้านบาท ปี 2564 ตั้งเป้าหมายภายใต้วิกฤตโควิด-19 จะทำตัวเลข 16,000 ล้านบาท คาดว่าคงจะเกิน เพราะเป็นตัวเลขขั้นต่ำที่ประเมินไว้เบื้องต้น และที่ผ่านมา ไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.) ได้ดำเนินการเจรจาจับคู่ไปแล้ว 33 ครั้ง เซ็นสัญญาซื้อขาย 992 คู่ ขายสินค้าให้กับผู้ส่งออกไทย 325 ราย ผู้นำเข้ามาซื้อ 345 ราย ช่วยยอดซื้อขาย 5,280 ล้านบาท และใน 3 ไตรมาสที่เหลือถึงธ.ค.2564 หรือประมาณ 9 เดือน ได้กำหนดแผนงานไว้ชัดเจน เพื่อให้พี่น้องประชาชนคนไทยมีความหวัง กระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้านำรายได้เข้าประเทศ แม้จะเป็นช่วงวิกฤตโควิด-19

ส่วนรายละเอียดการทำงานในช่วง 9 เดือนที่เหลือ ได้กำหนดเป้าหมายจะจัดให้มีการเจรจาจับคู่ธุรกิจรวม 85 ครั้ง จัดเฉลี่ยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง โดยทีมพาณิชย์ เซลส์แมนจังหวัด เซลส์แมนประเทศ และภาคเอกชน จะทำงานร่วมกัน ตั้งเป้าจับคู่ให้ได้ 2,500 คู่ มีผู้ส่งออก เซ็นสัญญาซื้อขาย 750 ราย มูลค่า 10,600 ล้านบาท โดยมีตัวอย่างการเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ เช่น เดือนพ.ค.2564 เจรจากับวอลล์มาร์ท สหรัฐฯ และเจรจากับผู้ซื้อ ผู้นำเข้าแอฟริกาใต้ , ก.ค.2564 เจรจาซื้อขายสินค้าฮาลาล อาหารเพื่อสุขภาพ , ส.ค.2564 เจรจาจับคู่ขายผลไม้ภาคใต้ ส่วนผลไม้ภาคอื่นได้ดำเนินการอยู่สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง และธ.ค.2564 เจรจาจับคู่เครื่องจักรกล เป็นต้น

นอกจากนี้ ในการเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ ได้ตั้งเป้าหมายเปิดพื้นที่ให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และไมโครเอสเอ็มอีในต่างจังหวัดด้วย