5 จุด 'ศัลยกรรมชาย' ทำแล้ว..หล่อปังฉุดไม่อยู่

“ศัลยกรรม” ถือเป็นเรื่องปกติในสังคมไทย ยิ่งปัจจุบันคนไทยใส่ใจภาพลักษณ์ของตัวเองและหันมาดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ การ "ศัลยกรรม” จึงเป็นวิธีการที่จะทำให้คนดูดีได้เร็วที่สุด เพราะเป็นทางที่ช่วยกลบจุดด้อย และเสริมความมั่นใจและบุคลิกให้กับตัวเองได้ ข้อมูลของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยนานาชาติ (ISAPS) พบว่าในปี 2561 ประเทศไทยติดอันดับ 8 ของประเทศที่มีการทำศัลยกรรมมากที่สุดในโลก

ขณะที่ภาพรวมมูลค่า"ตลาดศัลยกรรมความงาม"ทั่วโลกมีตัวเลขสูงกว่า 21 ล้านล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอีกในอนาคต ส่วนด้าน"ตลาดศัลยกรรมความงาม"ในประเทศไทยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีตัวเลขมูลค่ารวมเติบโตอย่างก้าวกระโดดเช่นกัน โดยจากเดิมเมื่อปี 2559 "ตลาดศัลยกรรมความงาม"มีมูลค่าเม็ดเงินในตลาดสูงประมาณ 30,000 ล้านบาท ต่อมาในปี 2560 เม็ดเงินที่หมุนเวียนใน"ตลาดศัลยกรรมความงาม"มีอัตราเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 36,000 ล้านบาท

• คาด "ตลาดศัลยกรรมความงาม"สูงถึง 55,000 ล้านบาท 

ส่วนปี 2561 มี มูลค่า"ตลาดศัลยกรรมความงาม"เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 45,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น ศัลยกรรมความงามจากโรงพยาบาล 70% และศัลยกรรมความงามจากคลินิกเสริมความงามอีก 30% โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปี และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องประมาณ 20% หรือสิ้นปี 2562 นี้ คาดการณ์ว่า"ตลาดศัลยกรรมความงาม"ในประเทศไทย น่าจะสูงถึง 55,000 ล้านบาท

นพ.ศรัณย์ วรรณจำรัส กรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการด้านการแพทย์ โรงพยาบาลวรรณสิริ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเตรียมการเปิดโรงพยาบาลวรรณสิริ ซึ่งจะเปิดให้บริการประมาณเดือน พ.ค.2564 โดยจะเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามครบวงจรที่นอกจากมีทีมแพทย์มืออาชีพ มีความเชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ยึดมั่นปรัชญาการให้การรักษาที่ปลอดภัยและได้มาตรฐานสากล

• "ศัลยกรรมชาย"เพิ่มขึ้น 10% ทำจมูก ตา มากที่สุด

เพื่อมอบประสบการณ์ความงามครบวงจร ในราคาที่สมเหตุสมผล พร้อมเทคโนโลยีการแพทย์ล้ำสมัย ซึ่งโรงพยาบาลดังกล่าวจะรองรับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติๆ เพราะต้องยอมรับว่ายุคสมัยนี้ คนทำ "ศัลยกรรม"มีจำนวนมากทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้ชาย มีการทำ "ศัลยกรรมชาย"เพิ่มมากกว่าเดิมประมาณ 10%

การทำ"ศัลยกรรม"ของผู้ชายหรือผู้หญิง นอกจากเพื่อความสวยความงามแล้วส่วนหนึ่งเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้นั้น อีกทั้งการทำศัลยกรรมในประเทศไทยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีเก่ง มีความชำนาญสามารถสู้กับแพทย์ต่างชาติได้ รวมถึงมีเทคโนโลยี นวัตกรรมทางการแพทย์ในการศัลยกรรม และได้รับมาตรฐาน

"ไม่มีเฉพาะผู้หญิงที่ทำศัลยกรรม ผู้ชายไทยได้นิยมทำศัลยกรรมเพิ่มมากขึ้น ประมาณ 10% และคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยผู้ชายจะทำศัลยกรรมจมูก และตามากสุด ซึ่งจะมีตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้นไป ทั้งกลุ่มหนุ่มสาว วัยทำงาน และกลุ่มผู้สูงอายุ” นพ.ศรัณย์ กล่าว

• 5 จุด "ศัลยกรรมชาย" ทำแล้วหล่อปังนิยมมากสุด

กลุ่ม "ศัลยกรรม" ที่ชายไทยนิยมทำ 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 ศัลยกรรมจมูก 2. ศัลยกรรมตา 3.ศัลยกรรมความงาม ฉีดโบท๊อกซ์ ทำทรีทเม้นต์หน้า รอยไหม เป็นต้น 4.ปลูกผม และ5.เพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย และดูดไขมัน สร้างกล้ามเนื้อ ทำซิกแพค ซึ่งแต่ละรูปแบบศัลยกรรมจะมีการทำ การดูแลหลังการทำที่แตกต่างกันไป

นพ.ศรัณย์ กล่าวต่อว่า "ตลาดศัลยกรรมความงาม" มีอัตราการเติบโตสูงมาก แต่ในช่วง"โควิด-19" อาจทำให้หลายแห่งชะงักลง แต่ในส่วนของรพ.วรรณสิริ ช่วงที่เกิด "โควิด-19" ยังไม่ได้เปิดให้บริการ ฉะนั้น เมื่อเปิดบริการในเดือนพ.ค.นี้ จะเป็นเสมือนการเติบโตเท่าๆ กับโรงพยาบาล และคลินิกที่เปิดอยู่ โดยตั้งเป้ารายได้ในปีแรก ประมาณ 300 ล้านบาท

อีกทั้งทางโรงพยาบาลเองมีความร่วมมือกับโรงพยาบาล คลินิกในต่างประเทศ ซึ่งเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาด และมีการบริการในกลุ่มศัลยกรรมหญิงและชาย ทั้งการทำจมูก การทำตา การทำศัลยกรรมความงาม การเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ การแปลงเพศ การดูดไขมัน สร้างกล้ามเนื้อ ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ปลอดภัยและได้มาตรฐานสากล ฉะนั้น เชื่อว่าเมื่อเปิดให้บริการจะมีผู้มาใช้บริการทั้งชายและหญิงจำนวนมาก

• แนะวิธี "การเลือกโรงพยาบาลหรือคลินิกศัลยกรรมความงาม"

“การเลือกโรงพยาบาล หรือคลินิกศัลยกรรมความงาม สิ่งที่จำเป็นมาก คือการศึกษาหาข้อมูล รายละเอียดของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในโรงพยาบาลศัลยกรรมความงาม และคลินิกศัลยกรรมความงามที่ตนเองเลือกไปใช้บริการ โดยจะต้องตรวจสอบแพทย์ว่ามีความเชี่ยวชาญสาขานั้นๆ จริงหรือไม่ ผ่านเว็บไซต์ของแพทย์สภา”นพ.ศรัณย์ กล่าว

อีกทั้งควรไปโรงพยาบาล หรือคลินิกศัลยกรรมความงาม ไปดูความสะอาด ปลอดภัย บุคลากรเจ้าหน้าที่ และราคาในการใช้บริการที่ต้องสมเหตุสมผล เพราะหากต้องการแต่ราคาถูกโดยไม่ได้ตรวจสอบแพทย์ ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่จะนำใส่เข้าไปในร่างกาย ก็ต้องรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับใบหน้า และร่างกายของตนเอง เพราะการ "ศัลยกรรม"เป็นการเสริม เพิ่ม ปรับตกแต่งให้สวยงาม และจะอยู่กับใบหน้า ร่างกายของเราไปยาวนาน

ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ที่ “ผู้ชาย” จะทำ "ศัลยกรรม" แต่ถ้าทำควรทำด้วยความมั่นใจ ความต้องการของตัวเอง อย่าทำตามกระแส หรือคำแนะนำของใคร เพราะสิ่งที่ทำจะอยู่กับคนๆ นั้น และการทำครั้งเดียวดีกว่าต้องมาแก้และทำใหม่หลายๆ ครั้ง

• มุ่งส่งเสริม"ตลาดศัลยกรรมความงาม" สร้างรายได้แก่ประเทศ

นพ.ศรัณย์ กล่าวอีกว่า โรงพยาบาลและคลินิกศัลยกรรมความงามในประเทศไทย มีจำนวนมาก และเชื่อว่าส่วนใหญ่มีความปลอดภัย ได้มาตรฐาน อีกทั้งสามารถแข่งขันกับต่างชาติ อย่าง ประเทศเกาหลีได้ แต่ทั้งนี้ หากจะทำให้ "ตลาดศัลยกรรมความงาม"สร้างรายได้ให้แก่ประเทศ

อีกหนึ่งจุดขายในการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ อย่าง ประเทศเกาหลี ภาครัฐต้องมีการปลดล็อกข้อจำกัดบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การทำวีซ่าให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถพักในประเทศได้เมื่อมาทำศัลยกรรมในประเทศไทย มีการส่งเสริมตลาดให้กว้างมากขึ้น ซึ่งภาคเอกชนพร้อมสนับสนุนและให้ความร่วมมือในทุกเรื่อง

“ตลาดศัลยกรรมความงาม สามารถสร้างรายได้ให้แก่ประเทศได้มหาศาล หากมีการส่งเสริมตลาดด้านนี้อย่างจริงจัง มีการสนับสนุนภาคเอกชน และภาครัฐเปิดกว้าง เอื้อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาศัลยกรรมในประเทศไทยได้ อีกทั้งภาคเอกชนที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับศัลยกรรมความงาม ก็ต้องดำเนินการธุรกิจภายใต้ความสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล และมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการบริการ มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขา ช่วยทำให้ศัลยกรรมประเทศไทย ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จัก สร้างความเชื่อมั่นให้แก่คนไทยและต่างชาติได้” นพ.ศรัณย์ กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:สาวๆ ต้องรู้!! เทคนิคเลือก'คลินิกความงามและศัลยกรรม'ไม่ให้พลาด

                  เปิดตัว ‘วรรณสิริ’ โรงพยาบาล ‘ความงามครบวงจร’