‘ดาวโจนส์’พุ่ง 297 จุด ดีดตัวต่อเนื่องจากวันก่อน

‘ดาวโจนส์’พุ่ง 297 จุด ดีดตัวต่อเนื่องจากวันก่อน

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันศุกร์ (9 เม.ย.)พุ่งขึ้น 297 จุด โดยดีดตัวขึ้นต่อเนื่องจากวันก่อน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 297.03 จุดปิดที่ 33,800.60 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 0.8% ปิดที่ 4,128.80 จุด และดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวขึ้น 0.5% ปิดที่ 13,900.19 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นเกือบ 1.6% ในสัปดาห์นี้ ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 พุ่งขึ้นเกือบ 2% ส่วนดัชนีแนสแด็ก ทะยานขึ้นกว่า 2.5%

ดาวโจนส์ปิดบวก 0.17% เมื่อวันพฤหัสบดี(8เม.ย.) ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีก หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่สูงเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

หุ้นกลุ่มสายการบิน และธุรกิจเรือสำราญต่างดีดตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งขึ้น 1.0% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.พ.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนีพีพีไอพุ่งขึ้น 4.2% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2554 หลังจากเพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนก.พ.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีพีพีไอ จะปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และพุ่งขึ้น 3.8% เมื่อเทียบรายปี

ทั้งนี้ เว็บไซต์ของกระทรวงแรงงานสหรัฐประสบปัญหาขัดข้องทางเทคนิคในวันนี้ ส่งผลให้การเปิดเผยดัชนีพีพีไอ ประสบความล่าช้า จากเดิมมีกำหนดเผยแพร่ตัวเลขดังกล่าวในเวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในการประชุมกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เมื่อวานนี้ว่า ราคาจะดีดตัวขึ้นในปีนี้ ซึ่งมีสาเหตุจากการใช้จ่ายที่พุ่งขึ้นของสหรัฐขณะเปิดเศรษฐกิจครั้งใหม่ แต่คาดว่าราคาที่ดีดตัวขึ้นนั้นจะไม่ทำให้เกิดเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ นักลงทุนมองว่าการแสดงความเห็นของนายพาวเวลเป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง