แพทย์แนะตรวจ 'โควิด-19' ควรตรวจด้วยชุด'Rapid Test '

จากกรณีที่พบผู้ติดเชื้อ"โควิด-19"และผู้ใกล้ชิดจาก "กลุ่มคลัสเตอร์สถานบันเทิง" จำนวนมาก ส่งผลให้ผู้ที่ไปยังสถานที่ต่างๆ ที่คนกลุ่มนี้ได้เดินทางไป รวมถึงได้มีโอกาสใกล้ชิด หรือไปงานที่มีผู้ติดเชื้อ "โควิด-19" ไปตรวจ "โควิด-19" ในโรงพยาบาลต่างๆ มากขึ้น

นพ.มนต์เดช สุขปราณี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาอายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ โรงพยาบาล "เมดพาร์ค" กล่าวว่าตั้งแต่มีการระบาด "โควิด-19" ใน "กลุ่มคลัสเตอร์สถานบันเทิง" กทม. พบว่า มีกลุ่มเสี่ยง หรือผู้ใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยงจากคลัสเตอร์ดังกล่าวจำนวนมาก  ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น "กลุ่มคนวัยทำงาน" ที่ได้ไปเที่ยวยังสถาบันต่างๆ หรือจัดกิจกรรมงานเลี้ยงกับเพื่อนฝูง และมีเพื่อนฝูงไปยังสถานบันเทิงเหล่านี้ มาตรวจ "โควิด-19" จำนวน กว่า 100 คน

• "เมดพาร์ค" ย้ำหากเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง รีบพบแพทย์ตรวจ "โควิด-19"

โดยเมื่อวันที่ 6 เม.ย.2564 มีผู้มาตรวจ "โควิด-19" ประมาณ50 คน และวันที่ 7 เม.ย.2564 มีผู้มาตรวจ 80 คน ซึ่งในจำนวนดังกล่าว มีผู้ที่มีผลการตรวจเป็นบวก จำนวน 6 ราย ทั้งนี้ จากการซักประวัติ พบว่ากลุ่มเสี่ยง ส่วนใหญ่ได้ไปยังสถานที่อื่นๆ และทำกิจกรรมที่ต้องพบปะผู้คนมาก

ดังนั้น อยากแนะนำทุกคนให้ประเมินความเสี่ยงของตนเอง หากไปในสถานบันเทิง หรือมีโอกาสใช้ชีวิตพูดคุย พบปะกับกลุ่มที่ไปยังสถานบันเทิง งานเลี้ยงต่างๆ มีความใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อ โควิด-19 เกิน 15 นาที ขึ้นไป ขอให้ไปตรวจโควิด-19 ว่าตนเองเป็นหรือไม่

• แนะตรวจ "โควิด-19"ด้วย "Rapid Test" รู้ผลเร็ว แม่นยำ

"การติดเชื้อโควิด-19 มีทั้งผู้ที่แสดงอาการและไม่แสดงอาการ ดังนั้น ขอให้ทุกคนที่ประเมินตนเองว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง รีบไปตรวจโควิด-19 และไม่ควรตรวจโดยชุดโควิด เทส ที่ตรวจผ่านน้ำลายหรือตรวจเลือด เพราะแปรผลได้ยากและไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนว่าเป็นโควิด-19 หรือไม่ แต่ขอให้ไปตรวจโควิด แบบ Rapid Test ให้ทำการตรวจคอ เพื่อดู RT PCR หรือตรวจสารพันธุกรรม เพื่อให้ได้ผลที่ถูกต้อง แม่งยำ และใช้เวลาไม่นาน" นพ.มนต์เดช กล่าว

ชุดตรวจ "Rapid Test" มีอยู่ 2 ประเภท คือ ประเภทปกติ จะใช้เวลานาน 3-4 ชม. โดยผลการตรวจจะใช้เวลามากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับขั้นตอนการนำส่งตัวอย่างเข้าเครื่องตรวจ และขั้นตอนของโรงพยาบาลนั้นๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เวลา 4-5 ชม. หรือ ใช้เวลา 1 วัน กว่าจะรู้ผล ในโรงพยาบาลเอกชนจะมีค่าใช้จ่าย ประมาณ 4,000-5,000 บาท

ส่วนวิธีที่ 2  "Rapid Test" ที่มีการดีไซต์เทคนิคการตรวจสอบ ให้ได้ผลเร็วยิ่งขึ้น ใช้เวลาทดสอบตั้งแต่ 10-45 นาที ก็จะสามารถรู้ผลทันที ซึ่งในส่วนของ "เมดพาร์ค" ใช้การตรวจที่จะใช้เวลาในการทดสอบ 20 นาที และประมาณ 1 ชม.ทราบผล

นพ.มนต์เดช กล่าวต่อว่า การทดสอบด้วย "Rapid Test" ไม่ว่าจะด้วยแบบนั้น แต่ส่วนใหญ่สามารถทำให้รู้ผลภายในวันเดียว และการทำทั้ง 2 แบบ มีความแม่นยำ ชัดเจน วินิจจัยได้ตรงกับสถานการณ์จริงๆ ของผู้ที่มาใช้บริการตรวจ "โควิด-19"

• ย้ำ "สงกรานต์ "สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง อย่าไปพื้นที่เสี่ยง

อย่างไรก็ตาม ทางรพ. "เมดพาร์ค" จะมีการซักประวัติ ถามถึงอาการ เพราะผู้ป่วย "โควิด-19" แต่ละคนจะมีอาการมากน้อย แต่ต่างกัน ซึ่งหากไม่แสดงอาการ ก็จะให้กลับไปกักตัวที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน ส่วนถ้าแสดงอาการน้อย ๆ จะให้เลือกว่าจะอยู่โรงพยาบาลหรือกลับไปอยู่บ้าน โดยต้องกันตัว 14 วันเช่นเดียวกัน ขณะที่ผู้ที่มีอาการปานกลาง ไปจนถึงรุนแรง ทุกคนต้องเข้ารับการรักษา กักตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 14 วัน หรือได้รับการรักษาจนหาย

“ตอนนี้ใกล้วันหยุดยาวสงกรานต์ ซึ่งสิ่งที่น่าเป็นห่วงมากสุด คือ ผู้ป่วยโควิด-19 ระลอกนี้ แสดงอาการน้อยมาก ผู้ใกล้ชิดที่เกี่ยวข้อง สมาชิกในครอบครัวของกลุ่มเสี่ยง ต้องประเมินตนเอง ดูอาการว่าเป็นโควิด-19 หรือไม่ และปฎิบัติตามมาตรการของสธ. สวมหน้ากากตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ” นพ.มนต์เดช กล่าว

ส่วนผู้ที่ต้องเดินทางกลับบ้าน ถ้าเป็นไปได้หลีกเลี่ยงรถขนส่งสาธารณะ แต่ถ้าไม่ได้ ต้องดูว่ามีมาตรการป้องกันโควิด -19 หรือไม่อย่างไร ขณะเดียวกันอย่าไปในพื้นที่เสียง ต้องวางแผนการเดินทาง การใช้ชีวิต และปฎิบัติตามแผนที่วางไว้ หลีกเลี่ยงไปเจอคนหมู่มาก หรือกิจกรรมกับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้ประวัติ

หากใครต้องการจะมาทำการตรวจโควิด-19 ขอให้นัดหมายล่วงหน้า เพราะขณะนี้มีการตรวจวันละหลายคน ต่อให้มีเครื่องมือ มีแพทย์ แต่ถ้าทุกคนมาพร้อมกัน เจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์อาจจะตรวจให้ไม่ทัน ขอให้วางแผนและประเมิน สังเกตอาการตนเองตลอดเวลา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: เช็คที่นี่ กลับบ้าน ‘สงกรานต์’ จังหวัดไหนต้อง ‘กักตัวโควิด’ บ้าง?

                   กทม.ประกาศเตือน ใครไป 22 ผับ-บาร์ เสี่ยง 'โควิด-19' รีบเช็คอาการ

                   รู้ให้ชัดก่อน ฉีด-ไม่ฉีด 'วัคซีนโควิด-19'