SAWADรุกธุรกิจครบวงจร-ดันอัพไซด์ราคาหุ้น

ขณะเดียวกันการกระโดดลงมาเล่นของแบงก์ใหญ่ช่วยให้ตลาดมีสีสันมากขึ้น ทำให้บรรดาผู้ประกอบการเจ้าถิ่นทั้งรายเล็กรายใหญ่อยู่นิ่งไม่ได้ ต้องงัดกลยุทธ์ออกมาสู้กันเต็มที่

บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD มีอะไรให้ตื่นเต้นตลอด ประเดิมด้วยการเปิดตัวพันธมิตรใหม่ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE ที่เข้ามาจีบขอร่วมทุน 30% หรือ คิดเป็นมูลค่า 300 ล้านบาท ในบริษัทบริหารสินทรัพย์ เอส ดับบลิว พี จำกัด (SWP) บริษัทย่อยของ SAWAD ทำธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) และทรัพย์สินรอการขาย (NPA)

แต่ที่เรียกเสียงฮืฮฮาอย่างมากคือการที่แบงก์ออมสินประกาศสนใจเข้าสู่ธุรกิจสินเชื่อรายย่อย พร้อมเดินหน้าหาพันธมิตรมาร่วมธุรกิจ โดยมีการเจรจากับบริษัทนอนแบงก์ถึง 8 ราย แต่สุดท้ายแล้วมาตกลงปลงใจกับ SAWAD

และได้เปิดตัวบริษัท เงินสดทันใจ จำกัด เดินหน้าทำธุรกิจจำนำทะเบียนรถร่วมกัน ประเดิมเฟสแรกด้วยการรับจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 14.99% ต่อปี หรือ 0.69% ต่อเดือน กำหนดเพดานสินเชื่อไว้ไม่เกิน 2-3 หมื่นบาทต่อราย

โดยลูกค้าสามารถนำรถจักรยานยนต์ พร้อมเล่มทะเบียนมาติดต่อขอสินเชื่อได้เลยที่สาขาในเครือศรีสวัสดิ์ทั้ง 5,000 สาขาทั่วประเทศ และสาขาของธนาคารออมสิน

ส่วนเฟสต่อไปจะขยายบริการไปสู่สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ คิดดอกเบี้ยต่ำกว่า 18% ปล่อยกู้สูงสุดไม่เกิน 2 แสนบาทต่อราย ซึ่งจะเปิดตัวในไตรมาส 2 นี้ โดยในปีแรกที่เปิดให้บริการตั้งเป้ายอดปล่อยสินเชื่อรวม 2 หมื่นล้านบาท

ล่าสุดได้ส่งบริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล จำกัด (SCAP) เข้าไปซื้อหุ้นบริษัท เอส ลีสซิ่ง จำกัด ซึ่งให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์อีก 85% จากเดิมถือหุ้นอยู่ 5% เพิ่มเป็น 90% ด้วยมูลค่าลงทุน 42.50 ล้านบาท ถือเป็นการเสริมเขี้ยวเล็บให้กับ SCAP ในการให้บริการสินเชื่อแบบครบวงจร

โดยมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มใหม่ๆ และพื้นที่ใหม่ๆ มากขึ้น รวมทั้งออกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายให้ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า โดยปีที่ผ่านมาแม้จะเกิดภาวะวิกฤตมีการระบาดของโควิด-19 แต่ “เอส ลีสซิ่ง” ยังเติบโตเด่น ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 2563 ยอดรถจักรยานยนต์ใหม่ที่ได้รับการอนุมัติเติบโตกว่าเป้าหมาย 400% และยอดคงค้างสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่เติบโตทะลุเป้าหมายกว่า 300%

แม้ว่าจะผ่านมาแค่ 1 ไตรมาส แต่ SAWAD มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจให้ติดตามโดยตลอด ถือว่าการเดินเกมครั้งนี้น่าจับตายิ่งนัก เพราะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ ติดอาวุธพร้อมรบ ทั้งความพร้อมเรื่องของฐานทุน ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายครบวงจร พ่วงด้วยคอนเนคชั่นที่แน่นปึ้ก

ด้านบล.เคทีบี ระบุว่า มีมุมมองบวกต่อการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น “เอส ลีสซิ่ง” โดยราคาซื้อขายที่ 42.50 ล้านบาท เท่ากับมูลค่าจดทะเบียนตามสัดส่วน 85% ที่เพิ่มขึ้น คิดเป็นราคาซื้อขายที่ PBV 1 เท่า ต่ำกว่าผู้ประกอบการเช่าซื้อรายอื่น อย่างบริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK และบริษัท เอส 11 กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ S11 ที่เทรดที่ trailing PBV 1.3 เท่า

นอกจากนี้ ยังทำให้บริษัทสามารถปล่อยสินเชื่อได้ครบวงจรมากขึ้น ขณะที่ลูกค้ามีโอกาสต่อสัญญากู้จากบริษัทอย่างต่อเนื่องจากการจำนำทะเบียนรถเก่าไปสู่การเช่าซื้อรถใหม่ โดยฝ่ายวิจัยประเมินว่าดีลนี้จะเพิ่มอัพไซด์ต่อกำไรสุทธิปี 2564 ที่ 2% อิงจากจำนวนยอดปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์ที่ 2 พันคันต่อเดือน ราคาปล่อยสินเชื่อเฉลี่ยที่ 5 หมื่นบาทต่อคัน เตรียมที่จะปรับประมาณการและราคาเป้าหมายใหม่เร็วๆ นี้