CPF ย้ำใช้ปลาป่นถูกกฎหมายตรวจสอบได้

CPF ย้ำใช้ปลาป่นถูกกฎหมายตรวจสอบได้

ซีพีเอฟ ยืนยัน อาหารสัตว์ ใช้วัตถุดิบปลาป่นถูกกฎหมาย 100 %จากผลพลอยได้โรงงานปลากระป๋อง พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนสร้างความยั่งยืนของอุตสาหกรรมประมงไทย ป้องกันการทำประมงไม่ถูกต้องและผิดกฎหมาย และดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเล

นายไพโรจน์ อภิรักษ์นุสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ธุรกิจสัตว์น้ำ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า บริษัทฯให้ความสำคัญกับผลิตกุ้งด้วยความรับผิดชอบและยั่งยืนตลอดห่วงโซ่ ควบคู่การรักษาสมดุลสิ่งแวดล้อม โดยเดินหน้าขับเคลื่อนการจัดหาวัตถุดิบปลาป่นสำหรับการผลิตอาหารสัตว์น้ำทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศต้องมาจากแหล่งที่ถูกกฎหมาย ยึดหลักสากล สามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบได้

ทั้งนี้ ซีพีเอฟ ในฐานะผู้ใช้ปลาป่นเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตอาหารสัตว์น้ำ โดยปลาป่นทั้งหมดที่บริษัทใช้ในกิจการประเทศไทย มาจากผลพลอยได้จากโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำ (By-Product) เช่น โรงงานผลิตทูน่ากระป๋อง และโรงงานผลิตลูกชิ้นปลา ทั้งหมดต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน Marin Trust ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตปลาป่นอย่างยั่งยืนในระดับสากลที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ช่วยให้บริษัทสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของวัตถุดิบได้ถึงเรือประมงที่จับปลา

ที่ผ่านมา ซีพีเอฟ ได้ร่วมกับพันธมิตรที่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานอาหารทะเล ทั้งภาคเอกชน ภาครัฐบาล ภาคประชาสังคม ผ่านโครงการปรังปรุงและพัฒนาการประมง จัดทำแนวทางการพัฒนาปรับปรุงการประมงทั้งฝั่งอันดามัน และอ่าวไทย ซึ่งปัจจุบัน ประเทศไทยได้รับการอนุมัติแผนการปรับปรุงและพัฒนาการประมง จาก Marin Trust เรียบร้อยแล้ว และเริ่มดำเนินงานตามแผนงาน

ในด้านการแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU ) ซีพีเอฟมีส่วนร่วมในการตั้ง Seafood Task Force ซึ่งเป็นเครือข่ายภาคธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหารทะเล ทำหน้าที่ส่งเสริมโครงการด้านความยั่งยืนทางทะเลต่างๆ เช่น การใช้เครื่องติดตามเรือ (VMS) ร่วมมือกับ องค์การสะพานปลา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย ศูนย์อภิบาลผู้เดินทางทะเลสงขลา(บ้านสุขสันต์)

จัดตั้งศูนย์ Fishermen’s Life Enhancement Cente ที่ท่าเทียบเรือประมงจังหวัดสงขลา เพื่อบูรณาการความร่วมมือจัดการปัญหาเรื่องการทำประมงผิดกฎหมาย รวมทั้งร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของแรงงานข้ามชาติ และครอบครัวในอุตสาหกรรมประมงตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน

จากความสำเร็จในการดำเนินงานร่วมกับกลุ่มเครือข่าย และผู้มีส่วนได้ส่วนได้เสียเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาประมง การคุ้มครองและเคารพสิทธิมนุษยชนที่ยั่งยืนและอย่างจริงจัง มีส่วนช่วยประเทศไทยได้รับการยกเลิกใบเหลืองในกรณี IUU Fishing จากสหภาพยุโรป และในปัจจุบัน รูปแบบการดำเนินงานของ Seafood Task Force ถูกนำไปใช้เป็นต้นแบบในประเทศอื่น ๆ เช่น เวียดนาม เป็นต้น

ในปีนี้ บริษัทยังมีส่วนร่วมในการกำจัดขยะทางทะเล โดยได้ร่วมกับมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาการประมงเพื่อความยั่งยืน (SFRD) สนับสนุนโครงการ “ทะเลสะอาด” ที่ส่งเสริมและรณรงค์ให้ชาวประมงลดการทิ้งขยะลงสู่ทะเลและช่วยกันเก็บขยะจากกิจกรรมประมง ทั้งขยะจากการอุปโภคบริโภคบนเรือและขยะที่ติดมากับเครื่องมือประมงกลับขึ้นฝั่ง เพื่อนำมาคัดแยกและส่งขายให้กับโรงรับซื้อขยะต่อไป

ในระดับโลก ซีพีเอฟ ได้ร่วมกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารทะเลชั้นนำ จากทั่วโลก ในกลุ่ม Seafood Business for Ocean Stewardship (SeaBOS) กลุ่มความร่วมมือสากลในการพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเล ประกาศเจตนารมณ์พัฒนาอุตสาหกรรมอาหารทะเลอย่างยั่งยืน บนบรรทัดฐานเดียวกัน รวมถึงนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับการตรวจสอบย้อนกลับสินค้าอาหารทะเลให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และป้องกันปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายอีกด้วย