'รัฐบาล'เร่งเป้าผลิต EV เร็วขึ้น หวังยอดสะสมปี 2578 แตะ 18.4 ล้านคัน

'รัฐบาล'เร่งเป้าผลิต EV เร็วขึ้น หวังยอดสะสมปี 2578 แตะ 18.4 ล้านคัน

“บอร์ดอีวีแห่งชาติ“ ตั้งเป้าผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ 100% ในปี 2578 เร็วขึ้นจากแแผนเดิม 5 ปี พร้อมตั้งอนุกรรมการ 4 ด้าน สร้างอีโคซิสเท็มหนุนผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ส่งเสริมการผลิตโครงสร้างพื้นฐาน แบตเตอรี่

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เรียกประชุม คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ครั้งแรกของปีเมื่อวันที่ 24 มี.ค.2564 เพื่อกำหนดเป้าหมายใหม่ในการผลักดันยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย ซึ่งต้องเป็นรถยนต์ ZEV หรือรถยนต์ที่ไม่ปล่อยมลพิษ

นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผ่านกรุงเทพธุรกิจว่า ที่ประชุมได้เร่งรัดให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถไฟฟ้า 100% ในปี 2578 หรือ อีก 14 ข้างหน้า ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายเดิมในปี 2583 หรือเร็วขึ้นกว่าเดิม 5 ปี  ขณะที่ปี 2573 จะต้องผลิตรถไฟฟ้าให้ถึง 50% ของปริมาณการผลิตรถทุกชนิด 

สำหรับเป้าหมายใหม่ แบ่งเป็นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสะสม ในปี 2568 ที่ 1.05 ล้านคัน แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง รถปิคอัพ 400,000 คัน รถจักรยานยนต์ 620,000 คัน รถบัส รถบรรทุก 31,000 คัน 

และปี 2578 จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสะสม 18.41 ล้านคัน แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง รถปิคอัพ 8.62 ล้านคัน รถจักรยานยนต์ 9.33 ล้านคัน รถบัส รถบรรทุก 458,000 คัน

ส่วนเป้าหมายการใช้รถไฟฟ้าสะสม ในปี 2568 อยู่ที่ 1.05 ล้านคัน แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง รถปิคอัพ 402,000 คัน รถจักรยานยนต์ 622,000 คัน รถบัส รถบรรทุก 31,000 คัน 

และปี 2578 จะมีการใช้รถไฟฟ้าสะสม 15.58 ล้านคัน แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง รถปิคอัพ 6.40 ล้านคัน รถจักรยานยนต์ 8.75 ล้านคัน รถบัส รถบรรทุก 430,000 คัน

161659185351

รัฐเร่งสร้าง“อีโคซิสเท็ม”

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ที่ประชุมอนุมัติตั้งอนุกรรมการ 4 ชุด เพื่อผลักดันความพร้อมในเรื่องที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การกำหนดสิทธิประโยชน์และภาษีอากร รวมทั้งการสร้างความต้องการใช้และการผลิตในประเทศ ได้แก่ เรื่องดีมานต์และซัพพลาย รวมถึงในการพัฒนาระบบนิเวศน์ (Ecosystem) ให้เหมาะสมกับการเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งรวมถึงการพัฒนาแบตเตอรี่รถไฟฟ้าประเภทต่างๆ โดยได้ให้เวลาถึงวันที่ 13 พ.ค.2564 ให้กลับมาประชุมกันอีกครั้ง 

ทั้งนี้ในเรื่องของการเร่งรัดการใช้ยานพาหนะที่เป็นไฟฟ้านั้นหากต้องการเร่งรัดให้เร็วอาจเป็นเรื่องของการสนับสนุนให้ใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้ทำได้โดยเร็วเพราะเราจะเปิดประเทศรับการลงทุนแล้วก็อยากให้เห็นทิศทางการเดินหน้าเรื่องของนโยบายเศรษฐกิจสีเขียวที่เป็นโมเดลเศรษฐกิจแบบใหม่ BCG ส่วนเรื่องการปรับตัวของผู้ประกอบการในประเทศที่ผลิตเครื่องยนต์ประเภทสันดาปคาดว่าจะยังมีเวลาเพียงพอที่จะปรับตัวได้ทันเพราะ ZEV จะค่อยๆผลิตมากขึ้นเรื่อยๆแต่ต้องใช้เวลาในการปรับตัวกว่าจะเป็น

“เราวางเป้าหมายในการเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าโดยในปี 2030 เราจะผลิตรถยนต์ได้ประมาณ 2.5 ล้านคัน โดยอย่างน้อยใน 2.5 ล้านคันจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ตามเป้าหมาย โดยในเรื่องนี้ต้องมีการกระตุ้นการใช้งานให้มากขึ้นด้วย” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว

ตั้ง4อนุกรรมการดัน EV

ขณะเดียวกันกรุงเทพธุรกิจรายงานว่าที่ประชุมเห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 4 คณะ ได้แก่

1.คณะอนุกรรมการส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วน มีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน

2.คณะอนุกรรมการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานและแบตเตอรี่เพื่อรองรับยานยนต์ไฟฟ้า มีปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน 

3.คณะอนุกรรมการประเมินผลกระทบด้านน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซเรือนกระจกจากการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า มีปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน

4.คณะอนุกรรมการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า มีปลัดกระทรวงการคลังหรือผู้แทน เป็นประธาน