'ประเสริฐ' งานเข้า! ประธาน อคส.ยื่นฟ้องอาญา-แพ่งเรียก 30 ล้าน ปมถุงมือยาง

'ประเสริฐ' งานเข้า! ประธาน อคส.ยื่นฟ้องอาญา-แพ่งเรียก 30 ล้าน ปมถุงมือยาง

“ประเสริฐ” งานเข้า! ประธาน อคส.ยื่นฟ้องอาญา-แพ่งเรียก 30 ล้านบาท ปมกล่าวอภิปรายพาดพิงให้เสียหาย กรณีการจัดซื้อถุงมือยาง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ เวลา 10.00 น. นายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธานองค์การคลังสินค้า ได้มอบหมายให้ นายประพันธุ์ คูณมี ทนายความยื่นฟ้อง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ต่อศาลอาญา

ทั้งนี้ เนื่องจากการอภิปรายของนายประเสริฐ ที่ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการประชุมรัฐสภา ครั้งที่ 23 เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 ที่นายประเสริฐ ได้กล่าวอภิปรายพาดพิงนายสุชาติ ประธานคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า กรณีการทําสัญญาซื้อขายถุงมือยางไนไตร กับ บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จํากัด ซึ่งนายสุชาติ เห็นว่า เป็นการกล่าวอภิปรายอันเป็นการกล่าวหาใส่ความด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และมีการนําเสนอข้อเท็จจริง เอกสารและคลิปเสียงประกอบการอภิปรายที่เป็นเท็จ และมีการตัดต่อข้อความ ซึ่งไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : "ประเสริฐ" จัดหนัก "จุรินทร์" ปล่อย "คนใกล้ชิด" ทุจริตเงิน "อคส." ปมถุงมือยาง

โดยกรณีดังกล่าว นายสุชาติ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทําความผิดของเจ้าหน้าที่ขององค์การคลังสินค้า แต่อย่างใดทั้งสิ้น การอภิปรายและการ กล่าวหาใส่ความด้วยข้อความอันเป็นเท็จของนายประเสริฐ จึงก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงทั้งในทางแพ่ง และทางอาญา กับ นายสุชาติ

ด้วยเหตุดังกล่าว นายสุชาติ จึงได้นําคดีมาฟ้องต่อศาลเป็น คดีอาญาพร้อมกับเรียกร้องค่าเสียหายในทางแพ่ง โดยมีคําขอท้ายฟ้องให้ศาลลงโทษตามมาตรา 326 และมาตรา 328 ตามประมวลกฎหมายอาญา และขอให้ประกาศคําพิพากษาของศาลในหน้า หนังสือพิมพ์ติดต่อกันเป็นเวลา 7 วัน และทําการลบ เพิกถอน แก้ไข เทปบันทึกภาพและรายงานการ ประชุมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ที่ได้มีการประชุม ครั้งที่ 23 เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 และขอให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ชดใช้ค่าเสียหายในทางแพ่งเป็นเงินจํานวน 30,000,000 บาท

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการพิสูจน์ความจริงต่อศาลว่า ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทําความผิดใดๆ ตามที่ นายประเสริฐ ได้อภิปรายกล่าวหาใส่ความ และการที่ต้องมาพึ่งบารมีของศาล เพราะนายสุชาติ ไม่มีโอกาสได้ชี้แจงต่อรัฐสภา ซึ่งการอภิปรายของ นายประเสริฐ ก็ไม่ได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองในกรณีนี้แต่อย่างใด ทั้งนี้เพื่อเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมายในการปกป้องเกียรติยศชื่อเสียงของตนเอง