"ประเสริฐ" จัดหนัก "จุรินทร์" ปล่อย "คนใกล้ชิด" ทุจริตเงิน "อคส." ปมถุงมือยาง

"ประเสริฐ" จัดหนัก "จุรินทร์" ปล่อย "คนใกล้ชิด" ทุจริตเงิน "อคส."  ปมถุงมือยาง

ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ "จุรินทร์" ชี้ละเลย "คนใกล้ชิด" ทุจริต งาบเงิน อคส. 2,000 ล้านบาท

       เมื่อเวลา 09.11 น. การประชุมสภาฯ​เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล  เป็นวันที่สาม  นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจนายจุรินทร์​ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ด้วยเหตุการทุจริตการจัดซื้อถุงมือยางขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ซึ่งพบคนใกล้ชิด ได้แก่ นายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธานกรรมการอคส. อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมมืออย่างเป็นขบวนการ ทำให้อคส.เสียหาย เป็นมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ว่า ในการจัดซื้อถุงมือยางของ อคส. นั้นพบว่าไม่ได้ทำตามขั้นตอนของกฎหมาย และขั้นตอนปฏิบัติปกติของราชการ และยังพบการทำสัญญาลวงกับ 7บริษัทเอกชนที่ไม่เคยประกอบกิจการซื้อขายถุงมือยาง ทั้งนี้กระบวนการเริ่มต้นเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2563  เมื่อนายเกียรติขจร แซ่ไต่ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย อคส.  แจ้งกับที่ประชุมซี่งมี พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ รักษาการ ผู้อำนวยการ อคส.  ว่า เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 ว่า บริษัทเครเน็กซ์ ลอว์ ออฟฟิส ประเทศสหรัฐอเมริกา มีหนังสือแสดงเจตจำนงซื้อถุงมือยาง จำนวน 500 ล้านกล่อง ราคากล่องละ 230 บาท และ อคส. ได้เจรจาซื้อถุงมือยางจากบริษัท การ์เดียน โกลฟ์ เมื่อว้นที่ 27 สิงหาคม  ทั้งที่บริษัทดังกล่าวจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อ 22 มิถุนายน 2563 ก่อนได้ทำสัญญา 2 เดือนมีทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท มีนายธณรัสย์ หัดศรี เป็นกรรมการบริษัท ซึ่งเป็นบุคคลที่ถูกพิพากษาคดีฉ้อโกงและคดีอาญา  และได้รับราคาเสนอขาย กล่องละ 225 บาท ทั้งนี้มีเงื่อนไขในสัญญาอคส.ต้องชำระเงินล่วงหน้า จำนวน 2,000 ล้านบาท ขณะท่ีบริษัทการ์เดียนต้องวางเงินประกัน 200 ล้านบาท ทำให้เรื่องดังกล่าวมีเงินทอน ถึง 1,800 ล้านบาท ทั้งนี้ในข้อสังเกตของตนมองว่าการเจรจาดังกล่าวไม่มีการสอบราคาไม่ได้ตรวจสอบและผิดขั้นตอน นอกจากนั้น พ.ต.อ.รุ่งโรจน์​ยังมีหนังสือตอบให้เร่งดำเนินการโดยด่วน
 
 
161362365519
       นายประเสริฐ อภิปรายด้วยว่าจากนั้นมีหนังสือเวียน แจ้งว่ามี 7 บริษัทเอกชนต้องการซื้อถุงมือยางจาก อคส. ได้แก่ 1.บริษัทไทยสไมล์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแปรรูปผักและผลไม้ จำนวน 52 ล้านกล่อง ๆ ละ 225 บาท รวมเงิน 11,700 ล้านบาท , 2. บริษัทกาโลลี่ แมนเนจเม้นท์ จดทะเบียนที่รัฐฟอลิดา สหรัฐอเมริกา ซื้อ 100 ล้านกล่องๆ ละ 223 บาท รวมเป็นเงิน 22,300 ล้านบาท, 3.บริษัทเครเนค ลอว์ ออฟฟิส เป็นบริษัทจดที่ประเทศสหรัฐอเมริกาซื้อ 500 ล้านกล่องๆ ละ 230 บาท รวมเป็นเงิน 115,000 ล้านบาท
       “ข้อสังเกตของ3 บริษัทนี้ คือเป็นสัญญาลวง ไม่มีสัญญาจริงเพื่อสร้างข้อมูลเท็จว่ามีการสั่งซื้อจำนวนมาก แต่ไม่พบการเรียกเงินมัดจำ หรือหลักประกันค้ำสัญญา ซึ่งปกติต้องมี ซึ่งสิ่งที่ผมมองว่าเป็นสัญญาลวง เพื่อต้องการอ้างเป็นเหตุว่า มีออร์เดอร์ และอคส. จำเป็นเร่งด่วนการจัดหาถุงมือยาง จึงรีบเจรจากับบริษัทการ์เดียน” นายประเสริฐ อภิปราย
  
       ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย อภิปรายต่อว่า 4. บริษัทควีนพาวเวอร์ คอมปานี จำกัด ซึ่งตรวจสอบที่ตั้งแล้วเป็นเพียสำนักงานกฎหมาย สั่งซื้อ 12 ล้านกล่องๆ ละ 210ล้านบาท มูลค่า 2,520 ล้านบาท, 5. บริษัท  ทเวนตี้โฟว์ คลีน เอ็นเนอร์จี้  สั่งซื้อ 12 ล้านกล่องๆละ 215 ล้านบาท รวมมูลค่า 2,580 ล้านบาท, 6. บริษัท เคเค ออยล์  จำกัด สั่งซื้อ 50 ล้านกล่อง ๆ ละ 220 ล้านบาท มูลค่า 11,000 ล้านบาท, และ 7. บริษัท เอ แอเมทิสต์ จำกัด สั่งซื้อ 100 ล้านกล่อง ๆ ละ 210 ล้านบาท มูลค่า 21,000 ล้านบาท  ทั้งที่เป็นบริษัทที่มีทุนจดทะเบียน1ล้านบาท เท่านั้น ทั้งนี้เมื่อรวม 7 บริษัทจะมียอดสั่งซื้อ 826 ล้านกล่อง มูลค่า 186,100 ล้านบาท เฉลี่ยราคาต่อกล่อง 225 บาท ถือว่าขาดทุน
  
       “ตามที่นายจุรินทร์ ให้นโยบายว่าจะทำให้ไทยเป็นฮับถุงมือยางและช่วยชาวสวนยางมีรายได้ เพราะนำน้ำยางมาผลิต แต่ข้อเท็จจริงพบรายละเอียดสัญญาขายว่า เป็นถุงมือไนไตรไม่ไม่แป้ง ซึ่งถุงมือดังกล่าวทำมาจากกากปิโตรเลียม  ส่วนสัญญาซื้อจากบริษัทการ์เดียน พบรายละเอียดว่าเป็นถุงมือยางลาเท็กซ์ ที่ทำจากยางพารา ดังนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง จากสัญญาที่ อคส. ดำเนินการ และไม่ใช่การช่วยเกษตรกร นอกจากนั้นการทำสัญญายังไม่ผ่านอัยการสูงสุด และพบความเร่งรีบเร่งรัด ซึ่งผมเชื่อว่ากรณีนี้มีคนแกล้งโง่เพื่อหวังทุจริต และที่สำคัญกำลังการผลิตในประเทศไทย ทำได้เพียง 300 ล้านกล่องต่อปีเท่านั้น”นายประเสริฐ อภิปราย 
161362350023
 
       นายประเสริฐ ได้อภิปรายพร้อมนำคลิปเสียง ที่อ้างว่าเป็นบทสทนายระหว่าง พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ และ นายสุชาติ ระหว่างการประชุม บอร์ดอคส. เมื่อ 26สิงหาคม 2563 ว่า ในบทสนทนา ได้ถามถึงสัญญาที่ควรนำมาแสดง เพราะมีมูลค่าสูง แต่มีการทักท้วงว่าเป็นเรื่องลับ และนายสุชาติ ระบุว่าให้รอง รมว.พาณิชย์เป็นผู้กดเดิน แสดงว่านายจุรินทร์มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ดีหลังจากประชุมพบบันทึกรายงานการประชุมที่ตัดวาระดังกล่าวออกจากบันทึก ซึ่งตนแปลใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นอาจเป็นประเด็นเพื่อไม่ให้มีผลต่อความรับผิดชอบ หรือถูกสอบว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่
       “สำหรับการเบิกเงิน 2,000 ล้านบาท จากบัญชีเงินฝากประจำของ อคส. และพันธบัตรนั้น สร้างความเสียหายกให้กับอคส.  แต่พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ฐานะผู้อำนวยการอคส. โต้แย้งกับเจ้าหน้าที่ ว่า เป็นโอกาสที่อคส. จะทำกำไรจึงได้เบิกเงินส่วนดังกล่าวออกมาทั้งที่ไม่กี่เดือนจะได้รับดอกผล   ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น นายจุรินทร์ ฐานะผู้กำกับ อคส. ควรดูแลและกำกับตามกฎหมาย แต่ไม่ดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ กมธ.การพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร เคยมีข้อสังเกต และทักท้วงให้แก้ไข แต่ไม่เห็นนายจุรินทร์ดำเนินการ ซึ่งผมเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาต่อ ป.ป.ช. และ ศาล  กรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่” นายประเสริฐ อภิปราย
  
       นายประเสริฐ อภิปรายด้วยว่าส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ฐานะผู้กำกับดูแล จะถูกแจ้งความดำเนินคดี ที่ ป.ป.ช. และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะไม่ได้กำกับดูแล  ทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ ทำให้ประโยชน์ชาติและประชาชนเสียหาย แม้ก่อนหน้านี้พล.อ.ประยุทธ์ จะย้าย พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ไปประจำสำนักนายกฯ​แต่ไม่พบการตรวจสอบหรือสั่งอายัดเงิน จำนวน 400 ล้านบาทจากบริษัทเอกชน
161362351877
       "เชื่อว่านายกรัฐมนตรี ไม่กล้าปรับหรือดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งที่กระทรวงพาณิชย์ เป็นตัวอย่างการทุจริตในรัฐบาล และผมเชื่อว่ามีการทุจริตอีกหลายกระทรวง เพราะเป็นฐานเสียงให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  สำหรับประเด็นที่เกิดขึ้นพบการวางแผนร่วมมือทุจริตอย่างเป็นระบบ เพื่อนำเงินหลวง เป็นประโยชน์ต่อตนและพวกพ้อง การทุจริตหน้าด้าน ไร้ยางอาย ปล้นชาติ ช่วยคิด แบ่งแยก และหาประโยชน์อย่างไร้ยางอาย” นายประเสริฐ อภิปราย.