10 ‘สปิริต’ แห่งปี 2020

อันดับ 1 ของ 10 สปิริตแห่งปี 2020 ขอมอบให้กับ จิน (Gin) สปิริตที่มาแรงในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มีจินจากประเทศต่าง ๆ นำเข้ามาในเมืองไทยมากพอสมควร ขณะที่หลายประเทศทั่วโลกก็หันมาผลิตจินมากขึ้น ถ้าไม่มีโควิด-19 เสียก่อน ปี 2021 อาจจะเป็น ปีทองของจิน ก็ได้ โดยสปิริตอันดับ 1 คือ จิน ทเวลว์ (Gin XII)

    จิน ทเวลว์ (Gin XII)

จิน ทเวลว์ (Gin XII) เป็นจินจากฝรั่งเศส ผลผลิตของโรงกลั่นดิสติลเลฮรีส์ เอต์ โดเมน เดอ โพรวองซ์ (Distilleries et Domaines de Provence) ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1898 ณ เชิงเขาลูร์ (Lure) เมืองฟอร์กาลกีเยร์ (Forcalquier) แคว้นโพรวองซ์หรือโก๊ต เดอ โพรวองซ์ (Provence / Cote de Porvence) ดินแดนที่มีดอกลาเวนเดอร์งดงาม และแหล่งผลิตโรเซ่ ไวน์รสเยี่ยม เดิมโรงกลั่นนี้ไม่ได้ชื่อนี้ก่อนจะกลายเป็น Distilleries et Domaines de Provence ในปี 1974 ด้วยสภาพอากาศที่ด้านหนึ่งเป็นเทือกเขาแอลป์ ด้านหนึ่งเป็นทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้เหมาะในการปลูกพืชผักสมุนไพรต่าง ๆ

  Cardamom หนึ่งในวัตถุดิบหลักสำคัญในการผลิตจิน XII

เริ่มมาตั้งแต่ในยุคกรีกและโรมัน บริเวณนี้ถูกใช้เป็นสถานที่ปลูกพืชสมุนไพรนานาชนิดเพื่อนำมากลั่นเป็นยา ความรู้ที่ตกทอดมาจากกรีกและโรมัน ทำให้ชาวฝรั่งเศสในเขตนี้มีความชำนาญในการกลั่นแอลกอฮอล์ ปัจจุบันโรงกลั่นนี้ผลิตทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สำหรับเรียกน้ำย่อยไปจนถึงช่วยย่อย รวมทั้งลิเคียวร์ รวมแล้วกว่า 30 อย่าง ส่งไปขายเกือบ 80 ประเทศทั่วโลก

Gin XII  กลั่น 5 ขั้นตอน เริ่มจากกลั่นวัตถุดิบ 8 อย่าง ที่เป็นพืชและเฮิร์บสไปซี ประกอบด้วย juniper berries, coriander seeds, sweet almond, thyme, grains of paradise,  angelica root, Florence iris root และ cardamom seeds โดยพวกนี้นำไปแช่รวมกันในแอลกอฮอล์ก่อนแล้วกลั่นพร้อมกัน ที่เหลืออีก 4 ขั้นตอนเริ่มจากการกลั่นวัตถุดิบที่เหลือคือ basil, rosemary, eucalyptus และ mint หลังนำไปแช่ในแอลกอฮอล์แล้วกลั่นแยกกันทีละอย่าง โดยทุกขั้นตอนกลั่นในหม้อกลั่นทองแดงแบบ Column Still เพื่อรักษาความสมดุลและคงเอกลักษณ์ของจินที่กลั่นออกมา

   เขตโพรวองซ์ แหล่งผลิตจินของฝรั่งเศส

จิน ทเวลว์, จิน ดิสติล ออง โพรวองซ์ (Gin XII, Gin Distille en Provence) กลั่นจากโรงกลั่นในแคว้นโพรวองซ์ (Provence) ทางใต้ของฝรั่งเศส โดยอักษรโรมัน XII หมายถึง 12 เป็นการบ่งบอกว่าจินตัวนี้ใช้วัตถุดิบ 12 ชนิดในการผลิต นั่นคือ juniper,   coriander, sweet almond, thyme, angelica, grains of paradise, iris, cardamom, basil, rosemary, eucalyptus และ mint แอลกอฮอล์ 42% ABV ….สีใสแจ๋วราวกับตั๊กแตน เป็นจินที่หอมอบอวลมาก ดมครั้งแรกได้กลิ่นจูนิเปอร์ลอยมาเตะจมูก ตามด้วยดอกไม้ มินท์ และความสดชื่นของป่าเขียว ๆ ที่มีหมอกในตอนเช้า การบูร เปปเปอร์ จบด้วยความหอมอบอวลและละเอียดอ่อนของจูนิเปอร์และดอกไม้ (นำเข้าโดยบริษัท Ambrose Wine & Spirit จำกัด)

    ชาโต ดาร์ตง ลา รีเสิร์ฟ โอต์ อาร์มาญัค เอโอซี

ชาโต ดาร์ตง ลา รีเสิร์ฟ โอต์ อาร์มาญัค เอโอซี (Chateau d’Arton La Reserve Haut Armagnac AOC) : เป็นหนึ่งในอาร์มาญัคที่อร่อยในตลาดเมืองไทย ทำจากองุ่นอูยี บลัง (Ugni Blanc) 100% โดยเบลนด์จากอาร์มาญัคที่มีอายุ 4 -11 ปี บรรจุขวดเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมานี่เอง แอลกอฮอล์ 45% เป็นอาร์มาญัคสไตล์ Rich and Fruity คือเข้มข้นและผลไม้หอมกรุ่น

สีเหลืองอำพัน อโรมาหอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น แพร์ มะเดื่อ และพลัม ตามด้วยทอฟฟี่กาแฟ ดอกไม้ สไปซี่ เปปเปอร์ อบเชย และขิง ขณะที่พาเลท (Palate) มีดอกไม้สด ๆ คาโมมายล์ โอ๊ค วานิลลา อัลมอนด์ เปลือกส้ม แพร์ มาร์มาเลด น้ำผึ้งกรุ่น ๆ จบยาวด้วยผลไม้ประเภทดราย ฟรุต (Dried Fruits) สไปซี่ แนะนำให้ดื่มเพียว ๆ (Neat) หรือเป็นส่วนผสมของค็อกเทลไซด์คาร์ (Sidecar)

    Tanqueray Flor de Sevilla

แทนกาเรย์ ฟลอร์ เดอ เซบียา (Tanqueray Flor de Sevilla) จินที่ใช้ส้มจากเมือง เซบียา (Sevilla) เป็นหนึ่งในวัตถุดิบ แอลกอฮอล์ 41.3%  ได้ชื่อว่าเป็นการผสมผสานที่ลงตัว (Complex) ของลอนดอน ดราย จิน (London Dry Gin) ของ Tanqueray ที่ใช้โบทานิก 4 ชนิด กับเอกลักษณ์ของส้มเซบียาได้อย่างลงตัว แถมยังสะท้อนรสชาติของเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean) ได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย

สีทองอมชมพู ดมครั้งแรกได้กลิ่นจูนิเปอร์แห้ง ๆ พร้อมดอกส้ม ที่เป็นหนึ่งในวัตถุดิบสำหรับพร้อมส้มสดหอมหวาน และซีทรัส เบอร์รี เลมอน วานิลลา เอิร์ธตี้ สไปซี เปปเปอร์ เฮิร์บ ออลสไปซ์ ช็อกโกแลต บิตเตอร์นิด ๆ รสชาติหนักแน่น จบยาวด้วยเปลือกส้ม ซีทรัส สไปซี และเฮิร์บชุ่ม ๆ คอ

     โบทานิสต์ ไอส์ลา ดราย จิน

โบทานิสต์ ไอส์ลา ดราย จิน (Botanist Islay Dry Gin) เป็น Islay Dry Gin จินพรีเมียมจินแห่งเกาะไอส์ลา เป็นผลผลิตของโรงกลั่น บรูชลัดดิช (Bruichladdich Distillery) ผู้ผลิตซิงเกิ้ลมอลต์คุณภาพ ใช้พืชผักสมุนไพรเครื่องเทศกว่า 31 ชนิดมาเป็นวัตถุดิบ และกลั่น 4 ครั้ง ออกสู่ตลาดครั้งแรกในปี 2011 แอลกอฮอล์ 46 %

ขวดออกแบบให้สะท้อนถึงธรรมชาติและป่าที่อุดมสมบูรณ์บนเกาะเล็ก ๆ ของสก็อตแลนด์ พร้อมตัวเลข 22 อันหมายถึงพืชผักเครื่องเทศสมุนไพรที่ใช้เป็นส่วนผสม ผสานกับรสชาติที่ดมครั้งแรกได้กลิ่นที่ชัดเจนของคือ ซีทรัส กูสเบอร์รี ดอกไม้นานาชนิด เมนธอลกรุ่น ๆ สาหร่าย กลิ่นอายความสดชื่นของสายลมจากทะเล สไปซี่เฮิร์บสด ๆ มินท์ โรสแมร์รี จบยาวด้วยสไปซี่ และดอกไม้

     Grey Goose VX

เกรย์ กูส วีเอ็กซ์ (Grey Goose VX) ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษ (Exclusive Edition) เป็นครั้งแรก และผลิตได้ในจำนวนจำกัด ความพิเศษคือการนำ Grey Goose Vodka 95% ผสมกับคอนญัคพรีเมียม อีก 5% โดยขึ้นอยู่กับผลผลิตองุ่นที่ทำคอนญัคในปีนั้นด้วย ใช้องุ่นอูญี บลัง (Ugni Blanc) ที่ปลูกมากในพื้นที่กรองด์ ชอมปาญ (Grande Champagne) ซึ่งเป็น 1 ใน 6 เขตย่อยของเมืองคอนญัค (Cognac) แคว้นชารองต์ (Charente) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ทั้ง 6 เขตนี้ คอนญัคจาก Grande Champagne ได้รับความนิยมมากที่สุด……หอมสดชื่นด้วยผลไม้ เช่นพลัม แอพริคอท และกูสเบอร์รี ตามด้วยน้ำผึ้งป่า ทุกๆ จิบให้อารมณ์เฉกเช่นเดียวกับการดื่มคอนญัค ซึ่งการดื่มเกรย์ กูซ วีเอ็กซ์ นั้นก็สามารถจิบเพียว ๆ แบบเย็นจัดในแก้วช็อต,แบบออนเดอะร็อค หรือนำมาทำค็อกเทล เป็นต้น 

    Bruichladdich Octomore

บรูชลัดดิช อ๊อชดัมมอร์ อีดิชชั่น : 07.1 / 208 (Bruichladdich Octomore Edition 07.1 / 208) : บ่ม 5 ปีในถังอเมริกันโอ๊ค และเป็นวิสกี้สไตล์ Super heavily peated whisky คือกลิ่นพีทค่อนข้างแรงและหนักแน่น ที่รมควันมากที่สุดจนได้น้ำหนัก 208 PPM แอลกอฮอล์ 59.5 % บรรจุขวดทรงสูง สีดำด้าน พร้อมคอขวดและตัวอักษร Octomore สีเงิน...ดมครั้งแรกได้กลิ่นคล้าย ๆ ฟางข้าวถูกเผา หญ้าแห้งชื้น ๆ ผลไม้เปรี้ยว ๆ คลอรีน บัลซามิค ยางสน สไปซี จันทน์เทศ ถ่านไม้ ยางพารา หนังสัตว์ ขณะที่อยู่ในปากมีความหวานเข้ามาช่วยให้เนียนจนแทบไม่รู้ว่าแอลกอฮอล์ 59.5 % บราวน์ชูการ์ มิเนอรัล ทอฟฟี่นม อบเชย กานพลู พริกแห้ง อัลมอนด์ แอปเปิ้ลอบสุก ๆ ขนมบ้าบิ่น ไลม์ ควันไฟ จบยาวด้วยควันไฟหอม ๆ คล้าย ๆ ย่างเนื้อ มิเมอรัล ผลไม้เขียว ๆ เป็นหนึ่งในวิสกี้ที่คอมเพล็กซ์ (Complex)

    Ron Zacapa Sistema 23 Solera Gran Reserva

รอน ซากาปา ซีสเตมา 23 โซเลรา กราน รีแซร์วา (Ron Zacapa Sistema 23 Solera Gran Reserva ) : เป็น รัมจากกัวเตมาลา (Guatemala) ประเทศในอเมริกากลาง ทำจากน้ำอ้อย 100 % เป็นรัมที่มีความนุ่มเนียน สีเข้มคล้าย ๆ ไม้มะฮอกกานีแกมทองแดงนิด ๆ กลิ่นหอมกานพลู  โกโก้ อบเชย ล้ม คาราเมล และน้ำผึ้ง รสหวานนุ่มนวล ขณะอยู่ในปากกลิ่นน้ำผึ้งและโกโก้ยิ่งชัดเจน จบด้วยความนุ่มนวลเนิ่นนาน ได้ 97 คะแนนจาก The Beverage Tasting Institute และเหรียญทองจาก International Cane Spirits Festival  2007

     กรีน เลเบิ้ล ฉลากใหม่

จอห์นนี วอล์กเกอร์ กรีน เลเบิ้ล เป็น Blended Malt Scotch Whisky ตัวเดียวในสายการผลิตของ Johnnie Walker และตอนที่ออกมานั้นจัดเป็นน้องใหม่ที่สุดในบรรดา 5 Label ทั้งหมดของ Johnnie Walker โดยเบลนด์จากมอลต์ วิสกี้จาก 4 โรงกลั่นที่เก่าแก่ใน 4 พื้นที่ของสก็อตแลนด์ นำมาเบลนด์แล้วบ่มในถังไม้โอ๊ค 15 ปี ซึ่งเป็นสูตรเด็ดเคล็ดลับของมาสเตอร์ เบลนด์ ที่หาวิธีสร้างสรรค์มาหลายปีกว่าจะลงตัว

รสชาติหนักแน่น ดมครั้งแรกได้กลิ่นผลไม้แห้งค่อนข้างสูง ตามด้วยกลิ่นโอ๊ค สไปซี และควันไฟกรุ่น ๆ โกโก้ ช็อกโกแลต ฟรุตตี้ค่อนข้างเยอะทั้ง แอปเปิ้ล แพร์ แอพริคอท พีช และเชอร์รี ขนมปังกรอบ จบด้วยสไปซี และขมกรุ่น ๆ แต่มีน้ำผึ้งมาช่วยให้กลมกล่อมลงตัว เป็นวิสกี้ที่มีรวมรสไว้หลายอย่างทั้งเปรี้ยว หวาน ขมนิด ๆ เค็มปะแล่ม ๆ และสไปซี่กรุ่น ๆ

    Micther's US*1 Small Batch

มิชเตอร์ส ยูเอส*1 สมอลล์ แบทช์ อเมริกัน วิสกี้” (Michter’s US*1 Small Batch American Whiskey) : เป็นอเมริกัน วิสกี้ ที่ควรลิ้มลองสักครั้ง ผลิตในจำนวนน้อย (Small Batch) หรือจำนวนจำกัด (Limited Quantities) และไม่เบลนด์ (Unblended) แหล่งผลิตคือเมืองหลุยส์วิลล์ (Louisville) รัฐเคนตั๊กกี้ (Kentucky) แอลกอฮอล์ 41.7%  ผ่านการบ่มในถังโอ๊คเบอร์เบิ้น และถังอเมริกัน ไวท์ โอ๊ค (American White Oak) สีเหลืองอำพัน ดมครั้งแรกหอมกลิ่นคาราเมล แอปเปิ้ล และลูกเกด ตามด้วยวานิลลา สไปซีเฮิร์บ กล้วยหอม ทอฟฟีกาแฟ จบยาวด้วยวานิลลาและหวานปะแล่ม ๆ จากโอ๊ค

   Don Julio Real Extra

ดอน ฆูลิโอ รีอัล เอ็กซ์ตรา อาเญโฆ (Don Julio Real Extra Añejo) : ตัวนี้เหนือชั้นกว่ารุ่น  Añejo จากการบ่มมากเป็นพิเศษคือ 5 ปี ในถังอเมริกันโอ๊คที่ผ่านมาบ่มเบอร์เบิ้นมาแล้ว มีกลิ่นหอมโอ๊คเป็นพิเศษ ตามด้วยครีมมี่ วานิลลาหอมหวาน เนย ดอกไม้ น้ำผึ้ง...เป็น 1 ใน 10 เตกีลาที่ราคาแพงที่สุดในโลก ขวดละประมาณ 300 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนหนึ่งของรางวัลการันตีคุณภาพ เช่น  Double Gold, San Francisco  World Spirits Competition (2011, 2008)  / Gold, 2004 International Review of Spirits / Top Extra-Aged Anejo Tequila,  San Francisco World Spirits Competition (2011, 2008)

นั่นคือ 10 สปิริต แห่งปี 2020 เป็นข้อมูลสำหรับศึกษา มิได้มีเจตนาเชิญชวนให้ดื่ม แต่ถ้า...ต้องดื่มด้วยความรับผิดชอบ...!!