ระยอง พบผู้ติดเชื้อ 'โควิด-19' เพิ่ม 28 ราย ผู้ว่าฯ ยันไม่ล็อกดาวน์-หา รพ.สนามเพิ่ม

ระยอง พบผู้ติดเชื้อ 'โควิด-19' เพิ่ม 28 ราย ผู้ว่าฯ ยันไม่ล็อกดาวน์-หา รพ.สนามเพิ่ม

ผู้ว่าฯ ระยอง แถลงพบผู้ติดเชื้อ 'โควิด-19' เพิ่ม 28 ราย ยืนยัน ไม่ล็อกดาวน์จังหวัด แต่เข้มงวดเรื่องการเดินทางมากขึ้น แม้แนวโน้มดีขึ้น แต่ต้องหาโรงพยาบาลสนามเพิ่ม

เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 64 นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันของ จ.ระยอง ว่า วันนี้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของ จ.ระยอง มียอดเพิ่มขึ้น 28 คน รวมยอดทั้งหมด 456 คน โดย อ.วังจันทร์ ยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ส่วนพื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อมากสุดยังเป็นเขต อ.เมือง ระยอง

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

สำหรับสถานการณ์โดยรวมถือเป็นแนวโน้มที่ดีขึ้น จากจำนวนผู้ป่วยที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีเตียงรองรับผู้ป่วยทั้งหมด 694 เตียง ซึ่งยังเพียงพอรองรับผู้ป่วย แต่จำเป็นต้องหาโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติมอีก เพื่อเป็นการเตรียมไว้ในกรณีที่ยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้น

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

นายชาญชนะ กล่าวต่อว่า ในกรณีที่ประชาชนที่เป็นผู้ป่วยหรือกลุ่มเสี่ยง ได้รับความเดือดร้อนจากการกักตัว ที่ต้องหยุดกิจกรรมเพื่อป้องกันการระบาดโควิด-19 ขอให้ทุกคนแจ้งมาได้ ทางจังหวัดจะได้เข้าไปช่วยเหลือดูแลให้

ส่วนเรื่องล็อกดาวน์ จ.ระยอง ยังไม่มีการล็อกดาวน์ แต่มีการเพิ่มมาตรการ ตรวจเข้ม โดยการตั้งด่านตรวจทั้งหมด 6 จุด ตามแนวตะเข็บข้อต่อระหว่างจังหวัด ซึ่งต้องขออภัยในความไม่สะดวกในการตรวจคัดกรอง

นายชาญชนะ กล่าวอีกว่า สำหรับการเดินทางยังสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ แต่ต้องมีเหตุผล และจุดหมายที่จะไป สำหรับแรงงานต่างด้าวต้องขออนุญาตเคลื่อนย้ายจากแรงงานจังหวัดระยอง ส่วนแรงงานที่เดินทางข้ามจังหวัด ผู้ประกอบการต้องมีใบอนุญาตแสดงให้ทางด่านตรวจดู ซึ่งจะเข้มงวดมากขึ้นในเรื่องการเดินทาง ก็ขอให้ทุกคนช่วยกัน

ด้าน นพ.สุนทร เหรียญภูมิการกิจ สสจ.ระยอง กล่าวว่า ผู้ป่วยทั้งหมด 456 คน รักษาหายแล้ว 24 คน เดินทางกลับบ้านไปแล้ว มีอาการรุนแรง 7 ราย ที่เหลือไม่มีอาการรุนแรงแต่มีเชื้อโควิด-19 อยู่ในร่างกาย สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง หลังมารับการตรวจแล้ว ขณะรอผล ควรกักตัว ห้ามเข้าไปใกล้ชิดกับผู้อื่น เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อหากผลออกมาว่าติดโควิด

นพ.สุนทร กล่าวต่อว่า ส่วนผู้ที่มาตรวจแล้วผลออกมาเป็นลบ ก็ยังจำเป็นต้องมีการกักตัวเองต่อไปอีก 14 วัน ฝากเตือนประชาชนอย่าประมาทดูแลตัวเองให้ดี ใส่หน้ากากทุกครั้งที่ออกจากบ้าน และควรป้องกันตามมาตรการขั้นตอนที่สาธารณะสุขกำหนด