‘บุญชู’ ชักธงเขียว (กธ.) ท้ารบ‘ท็อป’ รีแมตช์ศึกเลือดสุพรรณ

‘บุญชู’ ชักธงเขียว (กธ.) ท้ารบ‘ท็อป’ รีแมตช์ศึกเลือดสุพรรณ
KEY
POINTS
- สุพรรณบุรี ไม่มีพรรคไหนผูกขาด หลัง “วราวุธ ศิลปอาชา” ยกพวกเข้าภูมิใจไทย “บุญชู จันทร์สุวรรณ” อดีตเด็กบรรหาร ร่วมทัพกล้าธรรม
- วลีเลือดสุพรรณสิ้นมนต์ เมื่อไม่มี “บรรหาร ศิลปอาชา” จับตาการเลือกตั้ง 69 เป็นเดิมพันสุดท้ายของ “บ้านใหญ่” เมืองเหน่อ
- หาก “บ้านใหญ่สุพรรณ” สีน้ำเงิน จะถูกเจาะได้ 1-2 เขต ก็น่าจะเป็นผลงานของ “เสี่ยต่อ” และบุญชู จันทร์สุวรรณ อดีตเด็กปั้นบรรหารนั่นเอง
พลันที่ ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ นำทีมพรรคเพื่อไทย ไปขึ้นเวทีหาเสียงครั้งแรกที่สุพรรณบุรี “ท็อป วราวุธ” ได้ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่า “ก็ลองกันดู เจาะได้ก็ลองกันดู”
เมื่อพรรคชาติไทยพัฒนา หรือพรรคสีชมพู ต้องกลายร่างเป็น “พรรคสีน้ำเงิน” จึงได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
ในชั่วโมงนี้ คู่แข่งที่น่ากลัวของ “น้ำเงินสุพรรณ” ไม่ใช่เพื่อไทย หากแต่เป็นพรรคกล้าธรรม หรือ “พรรคเขียว”
หลังจาก เฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. ผนึกกำลังกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ได้อาสาเข้ามาจัดทีมผู้สมัคร สส.สุพรรณบุรี ทั้ง 5 เขต
เนื่องจากสมัยที่แล้ว “เสี่ยต่อ” ได้ส่ง กิจจา วงศ์ประเสริฐ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ ลงสมัคร สส.สุพรรณฯ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ แม้ “สจ.กิจจา” จะแพ้แต่ก็ได้แต้มเยอะ จนเกือบล้มแชมป์พรรคชาติไทยพัฒนา
ด้วยเหตุนี้ เฉลิมชัย จึงดึง กิจจา วงศ์ประเสริฐ อดีต สจ.สุพรรณฯ มาจัดทีม โดยมี “บุญชู จันทร์สุวรรณ” อดีตนายก อบจ.สุพรรณฯ 4 สมัย มาเสริมทัพ
บุญชู เป็นลูกชาย ดิน จันทร์สุวรรณ กำนัน ต.หนองสะเดา อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ซึ่ง “กำนันดิน” เป็นหัวคะแนนให้บรรหาร ศิลปอาชา มาแต่ปี 2519
ตอนหลัง กำนันดินย้ายไปลงหลักปักฐานที่ อ.ด่านช้าง จึงรับผิดชอบพื้นที่ อ.สามชุก และ อ.ด่านช้าง ให้บรรหาร ก่อนส่งไม้ต่อให้ลูกชาย บุญชู จันทร์สุวรรณ
สำหรับบุญชู ไปทำธุรกิจโรงโม่หินที่หน้าพระลาน เป็นนายกเทศมนตรีตำบลหน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี อยู่หลายปี จึงกลับบ้านเกิดมาลงสมัครนายก อบจ.สุพรรณฯ
การเลือกตั้งนายก อบจ.สุพรรณบุรี ปี 2568 วราวุธ ศิลปอาชา และประภัตร โพธสุธน เลือกสนับสนุน อุดม โปร่งฟ้า อดีตที่ปรึกษา รมว.พัฒนาสังคมฯ (วราวุธ ศิลปอาชา)
“บุญชู” จึงเดินหน้าชนตระกูลศิลปอาชา โดยดึงแกนนำพรรคประชาชนสุพรรณฯ และกลุ่มเสื้อแดงเมืองเหน่อ มาเป็นฐานเสียง แต่สุดท้ายก็พ่ายอุดม โปร่งฟ้า ภายใต้แบรนด์พรรคสีชมพู
การกลับมาสวมเสื้อกล้าธรรมของบุญชู จันทร์สุวรรณ เหมือนรีแมตช์ศึกเลือดสุพรรณ เพียงแต่เปลี่ยนจากสนามท้องถิ่นเป็นสนามระดับชาติ
วลีของท็อปที่ว่า “เจาะได้ก็ลองดู” ซึ่งที่ผ่านมา พรรคชาติไทยพัฒนา มีจุดแข็งคือ สส.สุพรรณบุรี 5 ที่นั่ง นับแต่ปี 2562 ไม่มีพรรคใดมาเจาะได้
เขต 1 (อ.เมืองสุพรรณบุรี) ฐานเสียงของตระกูลศิลปอาชา มี “สส.ยอร์ช” สรชัด สุจิตต์ บ้านใหญ่ ปตท.หลักเมือง และหลานคุณหญิงแจ่มใส
ครั้งนี้ บุญชู จันทร์สุวรรณ อาสาลงชน “สส.ยอร์ช” เหมือนการสางแค้นเก่า เพราะเลือกตั้งนายก อบจ.สุพรรณฯ หลานคุณหญิงแจ่มใสเป็นกำลังหลักของอุดม โปร่งฟ้า
มิหนำซ้ำ ประยูร อินสกุล อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังสวมเสื้อเพื่อไทย ลงเขต 1 ด้วย
เขต 2 (อ.บางปลาม้า อ.สามชุก) ฐานเสียงของตระกูลประเสริฐสุวรรณ โดย ณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ลูกชายหมอบุญเอื้อ ผูกขาดมาหลายสมัย
เขต 3 (อ.อู่ทอง อ.สองพี่น้อง) ฐานเสียงของตระกูลศิลปอาชา ได้ นพดล มาตรศรี ทายาทกำนันเคี้ยง อ.อู่ทอง เป็น สส.สมัยแรก
สนามนี้ พรรคกล้าธรรมหวังเจาะให้ได้ เพราะสมัยที่แล้ว นพดล มาตรศรี ได้ 39,348 คะแนน ส่วน กิจจา วงศ์ประเสริฐ ในสีเสื้อ ปชป. ได้ 32,990 คะแนน
เลือกตั้ง 69 “สจ.กิจจา” มาอยู่กล้าธรรม ส่งลูกชาย ณัฐชาติ วงศ์ประเสริฐ อดีต สจ.สุพรรณฯ เขต อ.อู่ทอง ลงสู้กับแชมป์เก่าแทน
เขต 4 (อ.เดิมบางนางบวช อ.ด่านช้าง) ฐานเสียงของตระกูลเที่ยงธรรม มี เสมอกัน เที่ยงธรรม ลูกชายเฮียจองชัย เที่ยงธรรม เป็นเจ้าของพื้นที่
ไม่แปลกที่พรรคกล้าธรรม จะส่ง “กำนันโอ๋” ยุทธนา โพธสุธน หลานประภัตรลงสนามอีก ซึ่งสมัยที่แล้ว กำนันโอ๋ก็พ่ายทายาทจองชัยแบบไม่ได้ลุ้น
เขต 5 (อ.ศรีประจันต์ อ.ดอนเจดีย์) ฐานเสียงของตระกูลโพธสุธน “เฮียเม้ง” ประภัตร โพธสุธน ผูกขาด สส.เขตนี้มาแต่ปี 2518 จึงยากที่จะมีใครมาโค่นได้
หาก “บ้านใหญ่สุพรรณ” สีน้ำเงิน จะถูกเจาะได้ 1-2 เขต ก็น่าจะเป็นผลงานของ “เสี่ยต่อ” และบุญชู จันทร์สุวรรณ อดีตเด็กปั้นบรรหารนั่นเอง







