ส่องบรรยากาศเปิดหีบ 'เลือกตั้ง อบจ.' นครราชสีมา ช่วงเช้าวันนี้

วันนี้ (20 ธ.ค.) ณ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ผู้สื่อข่าวรายงานว่าชาวโคราชมากราบสักการะย่าโมกันตั้งแต่เช้า แต่ยังไม่พบว่าผู้สมัคร นายก และ ส.อบจ. คนใดเดินทางมา เนื่องจากว่าส่วนใหญ่เดินทางมาตั้งแต่เมื่อวาน ส่วนประชาชนที่เดินทางมากราบไหว้ ส่วนใหญ่ก็มารอเข้าคูหา "เลือกตั้ง อบจ." ด้วย

หนึ่งในชาวโคราชที่มารอเลือกตั้งอย่าง นางทิพย์สุดา อุทรส บอกว่า วันนี้มาขอพรย่าโมแต่เช้า และจะเดินทางไปเลือกตั้ง อบจ. ที่เขตต่อทันที ส่วนตัวอยากได้ นายก อบจ. ที่มีความสามารถ ไม่โกงกินบ้านเมือง จะได้พัฒนาจังหวัดให้ก้าวหน้า โดยเฉพาะเส้นทางสัญจร ถนนหนทาง อยากให้พัฒนาให้ดีขึ้น

ส่วน นางบุบผา ชำนาญ อาศัยอยู่ที่ในเขตเมืองนครราชสีมา แต่บ้านเลขที่อยู่อำเภอปักธงชัย หลังจากมาไหว้ขอพรย่าโม ก็จะเดินทางกลับไปเลือกตั้งที่อำเภอปักธงชัย ห่างจากเมืองประมาณ 35 กิโลเมตร ซึ่งก็อยากให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ เลือกคนมีความสามารถมาพัฒนาเมืองโคราช

บรรยากาศก่อนเปิดหีบ "เลือกตั้ง อบจ." ของเขตเลือกตั้งที่1 อำเภอเมืองนครราชสีมา ที่บริเวณ หน่วยเลือกตั้งเต็นท์จุดกลับรถถนนราชดำเนินตัดถนนชุมพล ซึ่งอยู่ติดกับลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เจ้าหน้าที่นำอุปกรณ์การเลือกตั้ง มาจัดเตรียมภายในเต๊นท์ และต่างมีประชาชนทยอยเดินทางมาตรวจสอบลำดับและรายชื่อ ของตนเอง ตั้งแต่เวลา 06:00 น. ท่ามกลางการตรวจคัดกรองการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19

การเลือกตั้ง อบจ.นครราชสีมา มีหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 4,475 หน่วย ทั้งหมด 32 อำเภอ มี 48 เขตเลือกตั้ง เลือก ส.อบจ.ได้ 48 คน โดยมีผู้สมัคร ส.อบจ.ครั้งนี้ จำนวน 173 คน มีผู้สมัครนายก อบจ. จำนวน 5 คน ซึ่งมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด จำนวน 2,048,371 คน

ส่วนตำแหน่งนายก อบจ. มีผู้เข้าแข่งขัน 5 คนได้แก่ เบอร์ 1 ดร.สาธิต ปิติวรา , เบอร์ 2 ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล , เบอร์ 3 นายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก , เบอร์ 4 นายวิฑูรย์ ชาติปฏิมาพงษ์ และเบอร์ 5 นายตรีเพชร พรหมนิติพันธุ์

ซึ่งผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ทั้ง 5 คนนี้ เซียนการเมืองต่างก็ปักธงไปที่ ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล (คุณหน่อย) ผู้สมัครหมายเลข 2 และ นายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก (หมอแหยง) หมายเลข 3 อดีต นายก อบจ. ที่โดน ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี สอยร่วงกลางอากาศเมื่อปี 2555 จนเป็นเหตุทำให้เสียแชมป์ไปแบบน่าเสียดาย

คาดว่าการสมัครรับ เลือกตั้ง อบจ. ของเมืองโคราชในครั้งนี้น่าจะดุเดือดไม่น้อย ใครจะเข้าป้ายคว้าตำแหน่งสำคัญไปบริหารกับงบก้อนโต 4,000 ล้านบาท ต้องติดตามอย่าให้คลาดสายตา