เอฟดีเอมีมติใช้วัคซีนโควิดของไฟเซอร์ได้ในกรณีฉุกเฉิน
คณะที่ปรึกษาของคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐ(เอฟดีเอ) แนะนำการใช้งานวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น
ที่ประชุมคณะที่ปรึกษาจากภายนอกของเอฟดีเอ มีมติ 17 ต่อ 4 เสียง และงดออกเสียง 1 เสียง ว่าวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ต้นตอโรคโควิด-19 ซึ่งผลิตโดยบริษัทไฟเซอร์ของสหรัฐ ร่วมกับบริษัทไบออนเท็คของเยอรมนีมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการใช้งานกรณีฉุกเฉินเท่านั้นและใช้ในผู้ใหญ่และผู้มีอายุไม่ต่ำกว่า 16 ปี
ความเคลื่อนไหวนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางคำถามมากมายเกี่ยวกับวัคซีนตัวนี้ หลังจากสหราชอาณาจักรเป็นประเทศแรกของโลกซึ่งเริ่มแจกจ่ายวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเท็คให้แก่ประชาชน ตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา และต่อมามีรายงานการเกิดผลข้างเคียงกับผู้เข้ารับวัคซีนอย่างน้อย 2 คน ที่มีโรคประจำตัวคือภูมิแพ้ จนมีการออกคำเตือนให้ผู้ป่วยโรคนี้เลื่อนกำหนดการเข้ารับวัคซีนออกไป
อย่างไรก็ตาม คณะทำงานของเอฟดีเอยังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการแนะนำหญิงมีครรภ์ ในการเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์และไบออนเท็ค โดยระบุว่ายังไม่มีข้อมูลเพียงพอ
ด้านไฟเซอร์ ยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องนี้
ในสัปดาห์หน้าคณะทำงานของเอฟดีเอจะพิจารณาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ผลิตโดยบริษัทโมเดอร์นา ตามด้วยวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (เจแอนด์เจ) ที่บริษัทยืนยันว่า สามารถฉีดเพียงโดสเดียวได้ และวัคซีนซึ่งผลิตโดยสหราชอาณาจักร คือบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด