'แม่สอด' พบชาวปากีสถาน ป่วย 'โควิด-19' นอกสถานที่กักกันโรค

วันที่ 5 ธันวาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานแจ้งว่า แพทย์โรงพยาบาลแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ได้พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 ราย เป็นชาวปากีสถาน อายุ 43 ปี อาชีพพ่อค้าส่งรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นมือสอง ไปยังประเทศเมียนมา โดยผ่านท่าขนส่งสินค้าแห่งหนึ่งใน ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก และข้ามแม่น้ำเมยไปผ่านเขตอิทธิพลของชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงติดอาวุธ

สำหรับชาวปากีสถานคนดังกล่าว ได้เช่าอยู่ในคอนโดชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.แม่สอด จ.ตาก และมีอาการป่วยไปที่คลินิกแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครแม่สอด ต่อมามีอาการไม่ดี ไข้สูง ถูกส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลแม่สอด และพบว่า มีเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงรีบนำเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแม่สอด โดยนับเป็นรายที่ 3 ใน อ.แม่สอด ทำให้ผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นจากเดิมชายชาวเมียนมา 1 ราย หญิงไทย 1 ราย และล่าสุดชาวปากีสถานดังกล่าวอีก 1 ราย รวมทั้งหมด 3 ราย ที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลแม่สอด

รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนชายชาวปากีสถานรายนี้ว่า เดินทางไปที่ใดมากบ้าง สัมผัสกับใคร ซึ่งเป็นนักธุรกิจด้วย น่าจะมีการติดต่อสัมผัสกับนักธุรกิจฝั่งไทย และฝั่งเมียนมา ที่ จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ด้วยกัน

ทั้งนี้ ล่าสุดจากการสอบประวัติ พบว่า ไทม์ไลน์ของหนุ่มชาวปากีสถาน (มีหนังสือเดินทางปากีสถาน) ซึ่งแพทย์โรงพยาบาลแม่สอดพบติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อาศัยใน ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ก่อนพบเชื้อยังไม่มีอาการป่วยเดินทางไปคลินิกแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครแม่สอด เพื่อขอใบรับรองแพทย์ จะเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ และไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลแม่สอด จนทราบว่ามีเชื้อโควิด-19 และแพทย์ได้แยกห้องทำการรักษาทันที

จากการตรวจสอบประวัติการเดินทางพบว่าเดินทางไปหลายแห่ง เช่น

- นั่งรถยนต์ส่วนตัวไปที่โรงพยาบาลแม่สอด
- ไปร้านสะดวกซื้อในเขตเทศบาลนครแม่สอด และ ต.ท่าสายลวด
- ไปคลินิก สำนักงานบัญชี ร้านอาหารชื่อดัง ต.ท่าสายลวด

มีผู้สัมผัสกลุ่มเสี่ยงสูง 4 ราย และผู้สัมผัสต่ำ 9 ราย โดยทั้งหมดมีทั้งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแม่สอด เจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานบริษัทบัญชี ชาวบ้าน ในส่วนที่มีการสัมผัสที่มีความเสี่ยงสูงนั้น ได้มีการกักกันสถานที่ ที่รัฐจัดให้ จำนวน 4 ราย อย่างไรก็ตาม ด้านเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครอง ยังคงเข้มงวดตามแนวชายแดนด้าน จ.ตาก มากขึ้น