คมนาคมยันค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวถูกลงได้มากกว่า 65 บาทตลอดสาย

คมนาคมยันค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวถูกลงได้มากกว่า 65 บาทตลอดสาย

คมนาคมพร้อมแจงสูตรคำนวณราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว หลังนายกรัฐมนตรีเตรียมเปิดห้องนัดสางปมร่วมกระทรวงมหาดไทย แย้มลดได้มากกว่า 65 บาทตลอดสาย

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าสัญญาขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยระบุว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนรอทางกรุงเทพมหานคร กระทรวงมหาดไทย ตอบกลับข้อมูลที่กระทรวงคมนาคมได้สอบถามไว้ ในประเด็นคำถาม 4 ด้านเกี่ยวกับการดำเนินการตามกรอบ ม.44 การคำนวณราคาค่าโดยสาร การใช้ทรัพย์สินของรัฐ และข้อพิพาททางกฎหมาย

“เรื่องนี้ต้องพิจารณาอย่างละเอียด รอบคอบ และส่วนตัวผมเชื่อว่ายังมีเวลาที่จะพิจารณา เพราะสัมปทานจะสิ้นสุดในปี 2572 และยังมาสัญญาเดินรถถึงปี 2585 ดังนั้นการใช้เวลาพิจารณาอย่างละเอียดนี้ ไม่กระทบต่อการใช้บริการของประชาชนแน่นอน”

อย่างไรก็ดี กระทรวงฯ ได้เตรียมข้อมูลทั้งหมดที่มี เพื่อชี้แจงต่อนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดค่าโดยสาร ที่มีการนำเสนอข้อมูลก่อนหน้านี้ว่า ได้มีการคำนวณราคาค่าโดยสารรวมในเส้นทางปัจจุบัน รวมกับส่วนต่อขยายแล้ว จะมีราคาสูงสุดไม่เกิน 65 บาทตลอดสาย ซึ่งในส่วนนี้ไม่ทราบว่าหน่วยงานที่มีการคำนวณค่าโดยสารดังกล่าวนำฐานข้อมูลมาจากไหน ซึ่งขณะนี้นายกรัฐมนตรีเตรียมนัดหารือข้อมูลร่วมกันระหว่างกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย

ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงคมนาคม ได้รวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานที่กำกับดูแลรถไฟฟ้า ทั้งหน่วยงานทางกรมการขนส่งทางราง (ขร.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งเป็นผู้ให้สัมปทานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมเป็นการใช้ฐานการคำนวณจากดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ CPI (Consumer Price Index) และเมื่อลองนำสูตรคำนวณดังกล่าวมาคำนวณราคาค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีเขียวรวมกับส่วนต่อขยายแล้ว ยืนยันว่าประชาชนจะจ่ายค่าโดยสารสูงสุด ต่ำกว่า 65 บาท

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม เผยว่า การคำนวณอัตราค่าโดยสาร รถไฟฟ้าสายสีเขียวรวมส่วนต่อขยาย มีจำนวน 59 สถานี โดยก่อนหน้านี้ กทม.มีการกำหนดราคาจะจัดเก็บอยู่ที่สูงสุดไม่เกิน 65 บาทตลอดสาย ซึ่งลดลงต่ำกว่าผลการศึกษากำหนดในอัตราค่าโดยสารสูงสุด 158 บาทตลอดสาย

แต่เนื่องจากกระทรวงคมนาคมได้เข้าไปตรวจสอบสูตรคำนวณที่มาของค่าโดยสารไม่เกิน 65 บาทตลอดสายอ้างอิงจากกรุงเทพมหานคร และบีทีเอส พบว่าใช้สูตรคำนวณมาจาก CPI กระทรวงพาณิชย์ แต่เป็นการคำนวณรวมหมวดอาหาร และเครื่องดื่ม (Food and Beverage)

ซึ่งแท้จริงแล้ว การคำนวณค่าโดยสารระบบขนส่งสาธารณะ ไม่ควรนำ CPI รวมหมวดอาหารและเครื่องดื่มมาคำนวณด้วย อีกทั้งค่าโดยสารของ รฟม.ก็ไม่ได้นำหมวดอาหารและเครื่องดื่มมาคำนวณร่วม ดังนั้นควรมีการใช้สูตรคำนวณเดียวกัน ซึ่งกระทรวงฯ พบว่าหากใช้สูตรคำนวณไม่รวมอาหารและเครื่องดื่ม จะทำให้อัตราค่าโดยสารสูงสุดของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ลดลงได้มากกว่า 20% จากอัตรา 65 บาทตลอดสาย