'ช่อ' มั่นใจ 'ก้าวหน้า' หาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นถูกกฎหมาย

'ช่อ' มั่นใจ 'ก้าวหน้า' หาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นถูกกฎหมาย

'ช่อ' มั่นใจหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นถูกต้อง ชี้ กฎหมายเปิดทางอยู่แล้วแม้ไม่ได้เป็นพรรคการเมือง เย้ย กกต.เร่งคดีช่วยคนสนใจ 'ก้าวหน้า' มากขึ้น

ที่อาคารไทยซัมมิท น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า แถลงกรณีงคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.) สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนกรณีคณะก้าวหน้ามีการกระทำเข้าลักษณะเป็นพรรคการเมืองว่า ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราโดนใช้คดีความข่มขู่และปิดปาก ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็ถือเป็นนิมิตหมายอันดีของคณะก้าวหน้า นั่นหมายความว่ารัฐบาลกำลังประเมินว่าคณะก้าวหน้าประสบความสำเร็จในการทำงานทางการเมือง และเห็นว่าเรามีโอกาสสูงที่จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งท้องถิ่น จึงใช้มุกเก่าๆ ทำให้เรามีประสิทธิภาพหาเสียงช้าลง แต่เรื่องนี้ไม่สามารถหยุดยั้งการหาเสียงของเราได้ทั้ง 42 จังหวัด และเชื่อมั่นว่าในประชาชนใน 42 จังหวัดต้องการความเปลี่ยนแปลง ซึ่งกกต.ควรจะมาขอบคุณเรา ที่ทำให้ประชาชนตื่นตัวในการไปใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่นในครั้งนี้ เพราะเห็นแค่กกต.ทำงานขึ้นป้ายตามสถานทีต่างๆ เราก็ยังไม่เห็นงานอื่น 

เมื่อถามว่า ผู้สมัครเลือกตั้งท้องถิ่นมีความเป็นกังวลว่าคณะก้าวหน้าสามารถช่วยหาเสียงได้หรือไม่ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า เรายืนยันกับผู้สมัครของเราทุกคนว่าเราทำถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกยังอยู่คงอยู่ทุกประการ เราทุกคนขึ้นทะเบียนในการช่วยหาเสียงผู้สมัครทุกคน เพราฉะนั้นทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของกฎหมาย สุดท้ายหากกกต.จะเอาผิดเราจริงๆ ก็อยากทราบว่าจะเอาข้อกฎหมายใดมาเอาผิด การเลือกตั้งท้องถิ่น ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรคการเมือง กลุ่มต่างๆ ก็สามารถส่งผู้สมัครลงได้เช่นเดียวกับคณะก้าวหน้า ประชาชนทุกคนสามารถที่จะรวมกลุ่มและขับเคลื่อนทางสังคมได้ ซึ่งต้องถามทางกกต.ว่า คณะก้าวหน้า มีการกระทำอะไรที่เหมือนพรรคการเมือง 

เมื่อถามว่าในวันพรุ่งนี้(2ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินในคดีพักบ้านหลวง คาดว่าการตัดสินคดีเป็นอย่างไร น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า หากประเทศไทยยังมีนิติรัฐ และนิติธรรม พล.อ.ประยุทธ์ ก็ควรจะต้องพ้นจากตำแหน่ง แต่ไม่มั่นใจว่าประเทศนี้ปกครองด้วยระบบนิติรัฐ นิติธรรม จึงเป็นไปได้ว่า ในวันพรุ่งนี้คำพิพากษาอาจจะไม่ออกมาตามที่ควรจะเป็น

อย่างไรก็ตามการพ้นตำแหน่งของพล.อ.ประยุทธ์ คงไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีมากนัก เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้เพียงแต่เรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก แต่เรียกร้องให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์เมื่อถามว่าหากตัดสินไม่ได้ไม่ได้ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ พ้นจากตำแหน่งนายกฯ คาดการณ์ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า เป็นไปได้สูงว่าความไม่พอใจของประชาชนจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่พล.อ.ประยุทธ์ ตกจากเก้าอี้ แต่นี่จะเป็นอีกครั้งที่หลักนิติรัฐไม่สามารถใช้การได้ และจะทำให้ประชาชนหมดศรัทธาในสถาบันหลักของประเทศ อย่าให้ประชาชนหมดศรัทธาสถาบันอันเป็นหนึ่งของในอำนาจหลักของประเทศเล