เชียงใหม่ ยันยังไม่ 'ล็อคดาวน์'

ผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวีรายงานความคืบหน้า กรณีพบหญิงไทยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ 1 ราย และจากไทม์ไลน์กลับมาจาการทำงานที่ประเทศเมียนมา ข้ามฝั่งเข้าไทยทาง อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 25633 ก่อนเดินทางมาที่ จ.เชียงใหม่ โดยไม่ได้มีการกักตัวแต่อย่างใด ก่อนจะไปเที่ยวบาร์โฮสต์และศูนย์การค้าในพื้นที่อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2563

ล่าสุดนายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวีว่า ขณะนี้คณะกรรมการโรคติดต่อของ จ.เชียงใหม่ กำลังเร่งสืบหากลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงที่มีการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อทั้งสูงและต่ำเพิ่มเติม เนื่องจากว่าการเปิดเผยของผู้ติดเชื้อ บอกข้อมูลได้ไม่หมดในช่วงแรกและมาเปิดเผยระหว่างการสอบสวนโรคในแต่ละวัน จึงทำให้ทำงานได้ยากลำบาก แต่ด้วยการทำงานของคณะกรรมการที่มีการวางแผนไว้ ทำให้การทำสามารถเข้าจำกัดกรอบผู้สัมผัสได้แคบมากขึ้น และจากผลตรวจกลุ่มที่มีการสัมผัสยังคงมีผลเป็นลบ โดยทั้งหมดอยู่ระห ว่างการกักตัวใน "local quarantine" ของ จ.เชียงใหม่

ทั้งนี้ มีประชาชนหลายคนถามเข้ามาว่าจะมีการล็อคดาวน์ จ.เชียงใหม่หรือไม่นั้น ขอชี้แจงว่าขณะนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ยังไม่มีแนวทางที่จะล็อคดาวน์จังหวัด เนื่องจากยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยการล็อคดาวน์เป็นทางเลือกสุดท้ายที่จะใช้หากเกิด "Super spreader" อย่างไรก็ตามฝากถึงชาวเชียงใหม่ ให้ยกการ์ดสูงเอาไว้ก่อน ทั้งการสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หมั่นล้างมือ หลีกเลี่ยงพื้นที่แออัด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการสั่งปิดร้านคิงส์เวย์ โฮสต์แอนด์คาราโอเกะ ย่านสันธรรม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นร้านที่หญิงรายดังกล่าวได้เข้าไปใช้บริการ ส่วนศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่ ได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง หลังจากที่เมื่อวานนี้ได้มีการปิดเพื่อพ่นยาฆ่าเชื้อและทำความสะอาด