'กรมธนารักษ์' ผนึก 'กรุงไทย' พัฒนาระบบประมูลทรัพย์ออนไลน์ Real Time ครั้งแรก

'กรมธนารักษ์' ผนึก 'กรุงไทย' พัฒนาระบบประมูลทรัพย์ออนไลน์ Real Time ครั้งแรก

"กรมธนารักษ์" ผนึก "กรุงไทย" พัฒนาระบบประมูลทรัพย์ออนไลน์ Real Time ครั้งแรก

นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ และ นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาระบบประมูลขายทรัพย์สินที่ตกเป็นของแผ่นดินตามคำพิพากษาของศาลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยพัฒนาเว็บไซต์ Treasury e-Auction  ซึ่งเป็นระบบประมูลทรัพย์ออนไลน์เพื่อให้ประชาชนค้นหาและประมูลทรัพย์ที่ต้องการผ่านออนไลน์แบบ Real Time สะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 ที่กรมธนารักษ์

นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ปัจจุบันกรมธนารักษ์มีที่ราชพัสดุที่ได้มาจากการยึดทรัพย์จากผู้กระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน   และกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  จำนวนกว่า  700 รายการ  และมีหลายประเภท  จึงมีแนวทางในการบริหารจัดการทรัพย์สินที่ได้มาจากการยึดทรัพย์  โดยเปิดประมูลขายเพื่อลดภาระในการดูแลรักษาทรัพย์สิน และเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่รัฐอีกทางหนึ่ง  และมีความเชื่อมั่นว่าความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย ซึ่งมีระบบการจัดการขายทรัพย์สินของธนาคาร และมีประสบการณ์ในการขายการบริหารทรัพย์สินรอการขายทอดตลาด มากว่า 10 ปี จะสามารถบริหารจัดการทรัพย์สินที่ได้จากการยึดทรัพย์โดยการเปิดประมูลผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างรายได้กลับคืนเข้าสู่รัฐ รวมถึงการให้บริการสินเชื่อของธนาคารกรุงไทยแก่ผู้ประมูลได้


นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารมีความพร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศอย่างต่อเนื่อง และครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งผลงานในการมีส่วนร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ โดยได้ร่วมกับกรมธนารักษ์พัฒนาเว็บไซต์ Treasury e-Auction  ซึ่งเป็นระบบประมูลทรัพย์ออนไลน์ มีการออกแบบเว็บไซต์ให้รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์หลายชนิด เช่น โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน อำนวยความสะดวก ให้ประชาชนสามารถร่วมประมูลได้แบบเรียลไทม์ ทุกที่ทุกเวลา และมีความโปร่งใสให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ สอดคล้องกับในยุค New Normal โดยกรมธนารักษ์เป็นหน่วยงานรัฐแห่งแรก ที่นำระบบประมูลทรัพย์ออนไลน์มาใช้ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบสถานะทรัพย์ และออกหลักฐานให้กับผู้ที่ชนะประมูลได้สะดวก รวดเร็ว

“บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลสามารถสมัครสมาชิกประมูลทรัพย์ออนไลน์ โดยใช้ที่อยู่ตามบัตรประชาชนหรือที่ติดต่อได้สำหรับออกใบเสร็จชำระค่าธรรมเนียม แจ้งอีเมลและเบอร์ติดต่อ พร้อมวางเงินประกัน 10,000 บาท ผ่านระบบ e-Payment ของธนาคารที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน อาทิ การหักบัญชีธนาคารกรุงไทยแบบ Page2Page ซึ่งเป็นระบบที่ชำระเงินผ่านเว็บไซต์ได้ทันที  และการชำระด้วย บัตรเครดิต บัตรเดบิต ผ่าน ระบบ Krungthai Fast Pay  หรือชำระด้วย QR Code หรือ ใบแจ้งการชำระเงิน และเมื่อชำระเงินวางประกันเสร็จสิ้นแล้วสามารถเข้าร่วมประมูลทรัพย์ได้  โดยสามารถกำหนดงบประมาณในการประมูล สามารถบันทึกทรัพย์ที่ชื่นชอบลงในรายการโปรด เพื่อให้ง่ายต่อการเปรียบเทียบ กำหนดการประมูลได้ตามช่วงราคาที่ต้องการ นอกจากนี้ ระบบจะแสดงอันดับของผลประมูลล่าสุดทันที มีการแจ้งเตือนผู้ประมูลเมื่อมีการเปลี่ยนอันดับ พร้อมแจ้งเตือนเมื่อใกล้หมดเวลาประมูล โดยเจ้าหน้าที่กรมธนารักษ์จะติดต่อไปที่ผู้ชนะการประมูลโดยตรง เพื่อแจ้งรายละเอียดการทำสัญญาซื้อขายทรัพย์หลังการสรุปและรับรองผลประมูลจากคณะกรรมการของกรมธนารักษ์ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้าร่วมประมูล ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ไม่ชนะประมูล ระบบจะโอนเงินคืนกลับไปตามเลขที่บัญชีที่แจ้งไว้ในระบบตอนชำระเงินวางประกัน”


นายผยง ศรีวณิช กล่าวในตอนท้ายว่า เว็บไซต์ Treasury e-Auction  พร้อมเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2563  และในเร็วๆ นี้ ธนาคารจะพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ ของระบบประมูลขายทรัพย์ออนไลน์ เพื่อรองรับการชำระเงินค่าทรัพย์ผ่าน e-Payment ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี อีกทั้ง ขยายแพลตฟอร์มทางการเงินอื่นๆ ไปยังหน่วยงานภาครัฐ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของประชาชน และเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส