SCGP ลั่นรายได้แสนล้าน

SCGP ลั่นรายได้แสนล้าน

SCGPคาดรายได้ปีหน้าทะลุ 1 แสนล้านบาท  หลังมีกำลังการผลิตเพิ่มจากโรงงานโพลิเมอร์เวียดนาม จ่อฮุบอีก 2-3 ดีลในอาเซียน  

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) กล่าวว่า บริษัทคาดว่าการเติบโตของธุรกิจในปี 2564 ในส่วนของรายได้จะเติบโตสู่ 1 แสนล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่ารายได้น่าจะเติบโตขึ้น หากเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 89,000 ล้านบาท

ปัจจัยหนุนหลักๆจากการได้กำลังการผลิต จากโรงงานผลิตโพลิเมอร์แบบอ่อนตัว ในเวียนนาม แห่งที่ 2 เพิ่มขึ้น 84 ตารางเมตร/ปี ที่คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ รวมถึงการควบรวมกิจการของ Bien Hoa Packaging Joint stock Company เป็นหนึ่งในผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูกรายใหญ่ในเวียดนาม ที่คาดว่าจะเริ่มมีรายได้เข้ามาได้ภายในสิ้นปีนี้  

บริษัทประเมินว่า ความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ทั้งกระดาษ และโพลิเมอร์ ยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภครายย่อย ซึ่งบริษัทมีแผนขยายกิจการเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะในอาเซียน ที่อยู่ระหว่างการพูดคุย 2-3 ดีลในการเข้าซื้อกิจการ บรรจุภัณฑ์ประเภทกระดาษและโพลิเมอร์ ซึ่งคาดว่าจะเห็นความคืบหน้าอย่างน้อย 1 ดีลภายในสิ้นปีนี้ และจะเห็นการลงทุนในดีลใหม่ปีหน้า

“เราตั้งงบลงทุนซื้อกิจการและขยายการลงทุนจะเพิ่มมากกว่าปีนี้ ที่คาดว่าจะใช้ 1.2 หมื่นล้านบาท เพราะมีดีมานด์ต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีโควิด-19 และข้างหน้าหากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาได้ก็ยิ่งหนุนให้ความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ต่างๆเพิ่มขึ้นไปอีก”

สำหรับการลงทุนของบริษัทในปัจจุบันมี 3 โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ภายใต้งบลงทุนรวม 7.7 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยก่อสร้างเสร็จภายในปี 2564 ทั้งหมด ทั้งการขยายกำลังการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ในอินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ซึ่งจะหนุนให้บริษัทมีกำลังการผลิตเข้ามาเพิ่มอีก 620,000 ตัน/ปี และกำลังผลิตโพลิเมอร์ 53 ล้านตารางเมตร และคาดว่าโรงงานทั้ง 3 แห่ง จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 9,000 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นได้ในปี 2565 เป็นต้นไป และสัดส่วนรายได้ต่างประเทศจะเพิ่มมากขึ้นจากปัจจุบันที่อยู่ที่ 48%

“ราคาหุ้นที่ย่อลง เป็นโอกาสดีของนักลงทุนที่ต้องการซื้อหุ้น SCGP ส่วนการใช้ กรีนชู เรามีเวลา 30 วันหลังจากขายไอพีโอในการดู หุ้น  SCGP น่าจะมีความน่าสนใจมากขึ้น สำหรับนักลงทุนต่างชาติ ที่วันนี้ถือหุ้นอยู่ราว 39% ให้เข้ามาเพิ่มขึ้น หากบริษัทเข้าคิดคำนวณในดัชนี MSCI ที่จะเริ่มคำนวณวันที่ 10 พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนได้ง่ายขึ้น หลัง SCGP เข้าคำนวณในดัชนี SET50 แล้ว”

ราคาหุ้น SCGP ปิดตลาดวานนี้(28ต.ค.)ที่ 34.25 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 4.20%