'ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง' มีประชาชนเข้าร่วม กว่า 9.4 ล้านคน

'ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง' มีประชาชนเข้าร่วม กว่า 9.4 ล้านคน

"ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง" มีประชาชนเข้าร่วม กว่า 9.4 ล้านคน และมีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกว่า 3.8 แสนร้านค้า

หลังจากที่ภาครัฐเปิดให้ "ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง" ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หนึ่งในมาตรการที่กระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค ที่เริ่มเปิดให้ประชาชนได้ลงทะเบียนวันแรก เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา 

ล่าสุด วันนี้ (27 ต.ค.63) นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการ "คนละครึ่ง" มีประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกว่า 9.4 ล้านคน และมีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกว่า 3.8 แสนร้านค้า ซึ่ง ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2563 มียอดการใช้จ่ายสะสม 704.5 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 362.5 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 342 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 232 บาทต่อครั้ง โดยใช้จ่ายครบทุกจังหวัด และจังหวัดที่มีการใช้จ่ายมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา และนครศรีธรรมราช

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

รองโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายของประชาชนครึ่งหนึ่งที่ใช้จ่ายกับร้านค้า ซึ่งร้านค้าจะได้รับยอดรวมโอนเข้าบัญชีที่ "ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง" ทุกสิ้นวัน ในช่วง 02.00 น. - 6.00 น. ตามระบบชำระเงินของธนาคาร สำหรับส่วนที่ภาครัฐร่วมจ่ายอีกครึ่งหนึ่ง ร้านค้าจะได้รับในวันทำการถัดไป ในช่วง 17.30 – 19.00 น.

โดยยอดการใช้จ่ายในช่วงวันหยุดภาครัฐจะโอนให้ทันทีในวันทำการถัดไป สำหรับในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมาระหว่างวันที่ 23 - 25 ตุลาคม 2563 ในส่วนที่ภาครัฐร่วมจ่าย จำนวน 212 ล้านบาท ภาครัฐได้โอนให้ร้านค้า จำนวน 96,359 ร้านค้าเรียบร้อยแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รวมทั้งอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับปรุงระบบการจ่ายเงินให้ร้านค้าให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ดี หากร้านค้าใดยังไม่ได้รับเงินขอให้ติดต่อธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อตรวจสอบสถานะบัญชีของท่านว่า เป็นบัญชีที่ไม่มีการเคลื่อนไหวนานเกิน 1 ปีหรือไม่ หรือมีปัญหาอื่นใด

นอกจากนี้ รองโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะนี้ได้รับทราบว่ามีพฤติกรรมโฆษณาชวนเชื่อในการดำเนินการโดยไม่มีการใช้จ่ายจริงตามเงื่อนไขโครงการ จึงขอย้ำเตือนว่าภาครัฐมีระบบการติดตามตรวจสอบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติ รวมทั้งมีการตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการในติดตามความเคลื่อนไหวเรื่องดังกล่าว หากพบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติหรือมีการใช้จ่ายที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ ภาครัฐจะดำเนินการระงับการจ่ายเงินทั้งฝั่งร้านค้าและประชาชนทันที โดยหากตรวจสอบพบว่าการใช้จ่ายผิดเงื่อนไขโครงการจริงจะต้องมีการดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป จึงขอให้ประชาชนและร้านค้าโปรดอย่าหลงเชื่อการเชิญชวนตามโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ ในการช่วยดำเนินการโดยไม่มีการใช้จ่ายจริงอย่างเด็ดขาดเพราะอาจตกเป็นเหยื่อในการสนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้

ทั้งนี้ ภาครัฐมุ่งหวังให้ "โครงการคนละครึ่ง" สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน ตลอดจนช่วยให้ร้านค้ามีรายได้เพิ่มมากขึ้นได้จริง