เคลียร์ชัด 'คนละครึ่ง' กับ 'ช้อปดีมีคืน' เทียบกันหมัดต่อหมัด แบบไหนดี?

เคลียร์ชัด 'คนละครึ่ง' กับ 'ช้อปดีมีคืน' เทียบกันหมัดต่อหมัด แบบไหนดี?

เลิกสับสน! เข้าใจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล "ช้อปดีมีคืน" และ "คนละครึ่ง" กับข้อมูลที่จะช่วยให้ตัดสินใจใช้สิทธิ์ได้ง่ายขึ้น และเหมาะกับผู้ใช้มากที่สุด

ในเวลานี้ เรื่องเงินๆ ทองๆ ที่เกี่ยวข้องกับเงินในกระเป๋าของประชาชนที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ "ช้อปดีมีคืน" และ "คนละครึ่ง" ซึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่หวังให้กระตุ้นการใช้จ่ายของภาคประชาชนที่จะสูบฉีดระบบเศรษฐกิจในห้วงเวลาที่ซบเซาแบบนี้ได้

แต่หลายคนยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการเหล่านี้เพราะยังมีความสับสน และไม่มั่นใจว่าตัวเองมีสิทธิ์เหล่านี้หรือไม่ แล้วเมื่อเข้าโครงการนี้จะได้รับสิทธิ์อะไรบ้าง "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" จึงรวบรวม 6 ข้อที่ช่วยเปรียบเทียบความแตกต่าง และเงื่อนไขในการใช้สิทธิ์ "ช้อปดีมีคืน" และ "คนละครึ่ง" ชัดๆ ที่จะช่วยให้เข้าใจ และตัดสินใจง่ายขึ้น ดังนี้

 1. ทำอะไรได้บ้าง 

  • ช้อปดีมีคืน

ช้อปดีมีคืน สามารถใช้ในการซื้อสินค้าและบริการในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามที่เงื่อนไขโครงการกำหนด ได้แก่ สินค้าจำพวกสินค้าและบริการทั่วไป สินค้า OTOP และ หนังสือ ทั้งแบบเล่ม และอิเล็กทรอนิกส์ (E-Book)

  • คนละครึ่ง

คนละครึ่งสามารถใช้ในร้านอาหารและเครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไปที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง  : 

 2. การใช้สิทธิ์ 

  • ช้อปดีมีคืน

การใช้สิทธิ์ช้อปดีมีคืนไม่ต้องลงทะเบียน แต่จะต้องเก็บเอกสารสำคัญ ได้แก่ ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ หรือใบเสร็จรับเงิน เพื่อใช้ในการขอลดหย่อนภาษีปีภาษี 2563 

  • คนละครึ่ง

ต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ "คนละครึ่ง.com" ก่อน และใช้จ่ายผ่าน G-Wallet ผ่านแอพพลิเคชั่น "เป๋าตัง"

 3. ช่วงเวลาที่ใช้สิทธิ์ 

  • ช้อปดีมีคืน

23 ตุลาคม ถึง 31 ธันวาคม 2563

  • คนละครึ่ง

23 ตุลาคม ถึง 31 ธันวาคม 2563

 4. สิทธิประโยชน์ 

  • ช้อปดีมีคืน

ใช้เป็นค่ารถหย่อนภาษีสูงสุด 30,000 บาท ซึ่งสิทธิในการลดหย่อนจะลดหลั่นไปตามอัตราภาษีในแต่ละระดับเงินได้สุทธิ ของแต่ละบุคคล

หากลองคำนวณสิทธิ์ได้รับเงินคืนภาษีสูงสุดตามระดับรายได้ ดังนี้

- เงินได้สุทธิต่อปี 0-150,000 บาท ได้รับการยกเว้นภาษี ไม่ได้สิทธิ์คืนภาษี จากโครงการช้อปดีมีคืน แม้จะช้อปเต็มจำนวน 30,000 บาทก็ตาม
- เงินได้สุทธิต่อปี 150,001-300,000 บาท หากช้อปเต็มจำนวน 30,000 บาท มีสิทธิ์คืนภาษีสูงสุด 1,500 บาท 
- เงินได้สุทธิต่อปี 300,001-500,000 บาท หากช้อปเต็มจำนวน 30,000 บาท มีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 3,000 บาท
- เงินได้สุทธิต่อปี 500,001-750,000 บาท หากช้อปเต็มจำนวน 30,000 บาท มีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 4,500 บาท
- เงินได้สุทธิต่อปี 750,001-1,000,000 บาท หากช้อปเต็มจำนวน 30,000 บาท มีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 6,000 บาท
- เงินได้สุทธิต่อปี 1,000,001-2,000,000 บาท หากช้อปเต็มจำนวน 30,000 บาท มีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 7,500 บาท
- เงินได้สุทธิต่อปี 2,000,001-5,000,000 บาท หากช้อปเต็มจำนวน 30,000 บาท มีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 9,000 บาท
- เงินได้สุทธิต่อปี 5,000,001 บาทขึ้นไป หากช้อปเต็มจำนวน 30,000 บาท มีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 10,500 บาท
  • คนละครึ่ง

รัฐบาลช่วยจ่าย 50% ทุกครั้งที่มีการใช้จ่ายตามเงื่อนไขร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ 150 บาทต่อคนต่อวัน สูงสุดคนละ 3,000 บาท

 5. เหมาะกับใคร 

  • ช้อปดีมีคืน

เหมาะสำหรับผู้ที่เสียภาษีในอัตราสูง เพราะสามารถลดหย่อนภาษีในอัตราที่มากกว่า

  • คนละครึ่ง

ผู้ที่เสียภาษีไม่มากหรือไม่เสียภาษี และต้องการให้รัฐบาลช่วยจ่ายค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

 6. ข้อควรระวัง 

แต่ละคนสามารถเลือก "ช้อปดีมีคืน" หรือ "คนละครึ่ง" อันใดอันหนึ่งเท่านั้น แต่ในกรณีที่ลงทะเบียน "คนละครึ่ง" แล้วไม่ได้ใช้สิทธิ์จะสามารถกลับไปใช้ "ช้อปดีมีคืน" ได้ตามปกติ