‘ทรัมป์’ยันโควิดจะหายไป-‘ไบเดน’เตือนวิกฤตจะรุนแรงขึ้น
‘ทรัมป์’เปิดฉากดีเบตรอบสุดท้าย ยืนยันโรคโควิด-19 จะหายไป สวนทางกับ‘ไบเดน’ที่เตือนว่าวิกฤตสาธารณสุขนี้จะรุนแรงขึ้น
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายโจ ไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครตได้เสนอวิสัยทัศน์ที่สวนทางกันอย่างมากในการดีเบตรอบสุดท้ายเกี่ยวกับวิธีการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยทรัมป์ประกาศว่าไวรัสจะหมดไป ขณะที่ไบเดนเตือนว่า สหรัฐกำลังจะเข้าสู่ “ฤดูหนาวที่มืดมิด”
ด้านนายไบเดน ประกาศว่า “ใครก็ตามที่ต้องรับผิดชอบกับการเสียชีวิตของผู้คนจำนวนมากนั้น ไม่ควรจะยังคงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา”
ทรัมป์ได้ปกป้องการจัดการของเขากับวิกฤตสุขภาพครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบศตวรรษ โดยไม่สนใจคำเตือนของไบเดนที่ว่าสหรัฐมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับสถานการณ์ที่เลวร้ายหนักขึ้นเนื่องจากการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และทรัมป์ได้ให้สัญญาว่า ชาวอเมริกันจะได้ฉีดวัคซีนต้านโรคโควิดภายในไม่กี่สัปดาห์นี้
“ไวรัสจะหายไป เราไม่สามารถปิดประเทศนี้ได้ นี่เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่” ทรัมป์กล่าว
ขณะที่นายไบเดน ยืนยันว่า คณะบริหารของเขาจะดำเนินการรับมือกับโรคระบาดตามคำแนะนำของนักวิทยาศาสตร์ และระบุว่าแนวทางที่มีแต่ความขัดแย้งของทรัมป์นั้น ขัดขวางประเทศในการรับมือกับไวรัส
การดีเบตครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สองที่ผู้สมัครทั้งคู่จะขึ้นเวทีเดียวกัน หลังจากที่มีการดีเบตรอบแรกเมื่อวันที่ 29 ก.ย. ซึ่งทั้งสองคนถูกวิจารณ์อย่างมากจากการขัดจังหวะกันและกันระหว่างการโต้อภิปราย จนนักวิจารณ์บางคนเรียกว่าเป็นการดีเบตของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกัน
ส่วนการดีเบตรอบที่สองที่กำหนดไว้เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ถูกยกเลิกเนื่องจากประธานาธิบดีทรัมป์ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการดีเบตในรูปแบบออนไลน์