วัคซีนบริษัทจีน-รัสเซียความหวังใหม่ต้านโควิด

วัคซีนบริษัทจีน-รัสเซียความหวังใหม่ต้านโควิด

“ซิโนแวก” ยักษ์ใหญ่เวชภัณฑ์จีน เตรียมทดลองวัคซีนต้านโควิดในฟิลิปปินส์ก่อนสิ้นปีนี้ ขณะรัสเซีย ขึ้นทะเบียนวัคซีนต้านโควิดตัวที่ 2

"อิริก โดมินโก" ผู้อำนวยการสำนักงานอาหารและยาของฟิลิปปินส์เปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัทซิโนแวก ไบโอเทค ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ชั้นนำของจีน อาจจะเริ่มทำการทดลองวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ในฟิลิปปินส์ก่อนสิ้นปีนี้

โดมินโก กล่าวว่า ซิโนแวกได้ผ่านการทบทวนความเห็นของเหล่าผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการทดลองวัคซีนเฟสที่ 3 แล้ว และคาดว่าจะยื่นขอการอนุมัติจากสำนักงานอาหารและยาของฟิลิปปินส์อย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์นี้ โดยโดมินโกกล่าวว่า กระบวนการอนุมัติอาจจะใช้เวลาประมาณ 21 วัน

นอกจากนี้ การทดลองวัคซีนของแหล่งอื่นๆ รวมถึงการทดลองที่ดำเนินการโดยองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ซึ่งฟิลิปินส์มีส่วนร่วมด้วยนั้น อาจจะเริ่มต้นได้ก่อนสิ้นปี 2563

ด้านประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ฟิลิปปินส์จะให้ความสำคัญกับวัคซีนจากจีนและรัสเซียเป็นอันดับแรก พร้อมกับกล่าวว่า รัสเซียได้แสดงความประสงค์ที่จะจัดตั้งโรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์ในฟิลิปปินส์

เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา นายหยิน เหว่ยตง ซีอีโอของซิโนแวก เปิดเผยว่า วัคซีนต้านโรคโควิด-19 ที่บริษัทกำลังพัฒนานั้น จะพร้อมจัดส่งไปทั่วโลกรวมถึงสหรัฐในช่วงต้นปี 2564

ทั้งนี้ ซิโนแวก กำลังพัฒนาวัคซีนโควิด 1 ใน 4 ตัวของจีน ขณะที่บริษัทซิโนฟาร์มของรัฐบาลจีนผลิต 2 ตัว และบริษัทแคนซิโน (CanSino) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือกองทัพจีนผลิต 1 ตัว

ซิโนแวกได้รับการอนุมัติจากทางการจีนในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาร่วมกับซิโนฟาร์มและแคนซิโนให้ฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ให้กับประชาชนหลายพันคนในจีนภายใต้มาตรการฉุกเฉิน และได้ส่งมอบวัคซีนโคโรนาแวกหลายหมื่นโดสให้กับรัฐบาลเทศบาลกรุงปักกิ่งด้วย

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี"วลาดิมีร์ ปูติน" ของรัสเซีย ประกาศระหว่างการประชุมรัฐบาลทางออนไลน์ว่า ศูนย์วิจัยไวรัสและเทคโนโลยีชีวภาพรัสเซีย (เวคเตอร์)ในเมืองโนโวซีบีรสก์ ได้ขึ้นทะเบียนวัคซีนต้านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ตัวที่ 2 ของรัสเซีย โดยบันทึกจากทำเนียบเครมลิน รายงานคำกล่าวของ ปธน.ปูตินว่า ศูนย์วิจัยไวรัสและเทคโนโลยีชีวภาพรัสเซียในเมืองโนโวซีบีรสก์ได้ขึ้นทะเบียนวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ตัวที่ 2 ของรัสเซียโดยใช้ชื่อว่า เอพิวัคโคโรนา (EpiVacCorona)

"ทัตยานา โกลิโควา" รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย กล่าวระหว่างการประชุมว่ามีอาสาสมัครเข้าร่วมการทดสอบทางคลินิกของวัคซีนตัวนี้รวม 100 คน โดยวัคซีนตัวนี้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพด้านการกระตุ้นภูมิคุ้มกันสูง

รัสเซียขึ้นทะเบียนวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ตัวแรกช่วงต้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมา โดยใช้ชื่อว่าสปุตนิคไฟว์ (Sputnik V) ซึ่งตั้งตามดาวเทียมที่รัสเซียยิงขึ้นสู่อวกาศเมื่อปี 2500 แต่วัคซีนตัวนี้ถูกคิดค้นโดยสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์ด้านระบาดวิทยาและจุลชีววิทยากามาเลยา ซึ่งเป็นสถาบันการแพทย์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้กับกรุงมอสโก เมืองหลวงของประเทศ

ขณะที่ ดร.ซุมยา สวามินาธาน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของดับเบิลยูเอชโอ เปิดเผยว่า คนหนุ่มสาวที่มีสุขภาพแข็งแรงอาจจะยังไม่ได้รับวัคซีนต้านโรคโควิด-19 จนกว่าจะถึงปี 2565 เนื่องจากเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขต้องการให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุและกลุ่มคนที่สุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อก่อน

ดร.สวามินาธาน ระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุข บุคลากรด่านหน้า และผู้สูงอายุมีแนวโน้มที่จะได้รับวัคซีนเป็นกลุ่มแรก แม้ดับเบิลยูเอชโอ และคณะที่ปรึกษาจะยังกำหนดรายละเอียดการจัดลำดับความสำคัญของการรับวัคซีนอยู่ก็ตาม แต่ที่แน่ๆ วัคซีนต้านโควิดจะต้องได้รับการรับรองจากดับเบิลยูเอชโอ, สหภาพยุโรป (อียู) หรือสหรัฐว่า มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่จะนำไปใช้

“คนทั่วไปมักคิดว่า ไม่เดือนมกราคมก็เมษายนที่เราจะมีวัคซีนออกมา หลังจากนั้นสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่มันจะไม่เป็นอย่างนั้น” ดร.สวามินาธาน กล่าว

ดร.สวามินาธาน กล่าวเพิ่มเติมว่า โลกยังมีหวังที่จะได้ใช้วัคซีนที่ได้ผลและปลอดภัยอย่างน้อยหนึ่งวัคซีนในปี 2564 แต่จะใช้ได้ในปริมาณที่จำกัด และเมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันของดับเบิลยูเอชโอ ได้เผยแพร่แนวทางให้กับประเทศต่างๆ เกี่ยวกับการจัดลำดับความสำคัญของกลุ่มบุคคลที่จะได้รับวัคซีนโควิด