ธพว.เผยผลโควิดทำลูกหนี้เตรียมตกชั้นพุ่งเท่าตัว

ธพว.เผยผลโควิดทำลูกหนี้เตรียมตกชั้นพุ่งเท่าตัว

ธพว.เผย​ ผลกระทบโควิด-19ทำลูกหนี้กำลังตกชั้นเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีก่อน​ โดยอยู่​ที่​ 1 หมื่นล้านบาท

น.ส.นารถนารี รัฐปัตย์กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.)​เปิดเผยว่า​ ผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ลูกหนี้ที่กำลังจะตกชั้นเป็นหนี้เสีย(SM)ของธพว.ปรับสูงขึ้นเท่าตัว จากปีที่แล้ว โดยอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท

เธอกล่าวว่า ในปีที่แล้ว ลูกค้าสินเชื่อที่ขาดการส่งชำระ แต่ไม่ถึง 3 เดือน หรือเป็นกลุ่ม SM อยู่ที่ 5 พันล้านบาท แต่ผลกระทบจากโควิดทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้ปรับสูงขึ้นเท่าตัวในปัจจุบัน และคาดว่าลูกค้ากลุ่ม SM นี้จะไหลเป็นหนี้เสียราว 3 พันล้านบาท ทำให้ ณ สิ้นปีนี้คาดว่า​ หนี้เสียจะอยู่ที่ราว 1.9 หมื่นล้านบาท ถึง 2 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 20% ของสินเชื่อคงค้าง จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท หรือ 17% ของสินเชื่อคงค้าง

เธอกล่าวอีกว่า กลุ่ม SM บางส่วนเป็นเพราะธุรกิจเดิมไปไม่ไหวจึงมีการเปลี่ยนธุรกิจ และบางส่วนต้องการเก็บเงินสดไว้เพราะไม่มั่นใจสถานกากรณ์เศรษฐกิจข้างหน้า และอีกส่วนหนึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มที่ธนาคารไม่ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งมีราว 300 ล้านบาท

ทั้งนี้​ ที่ผ่านมาธนาคารได้ให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิดเข้าโครงการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย เป็นเวลา 6 เดือน ตามเกณฑ์ ธปท. โดยเริ่มตั้งแต่ เมษายนที่ผ่านมา และสิ้นสุด 22 ต.ค.นี้ ซึ่งมีลูกค้าเข้าโครงการ 4.32 หมื่นราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่ อ 6.64 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หลังพ้นระยะเวลาโครงการพักหนี้ดังกล่าวแล้ว ธนาคารก็ยังจะเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่มีสถานะปกติ สามารถพักการชำระเงินต้น โดยชำระเฉพาะดอกเบี้ยเท่านั้น เป็นเวลาอีก 6 เดือน โดยธนาคารจะนำยอดค้างชำระดังกล่าว ไปรวมชำระในช่วงท้ายสัญญา และนช่วงที่ผ่อนปรนนี้ ไม่ถือว่าเสียประวัติการชำระหนี้

สำหรับผลประกอบการดของธนาคารในช่วง 9 เดือนของปีนี้ สามารถปล่อยสินเชื่อได้ 3 หมื่นล้านบาท คิดเป็นจำนวนราย 1.5 หมื่นราย ขณะ ที่ปีที่แล้วทั้งปีปล่อยได้ 3.8 หมื่นล้านราย จำนวนราย 1.5 หมื่นราย อย่างไรก็ตามคาดว่ารายรับดอกเบี้ยปีนี้จะต่ำกว่าปีที่แล้ว โดยคาดว่าปีนี้จะมีรายรับดอกเบี้ย 4.5 พันล้านบาท เที่ยบกับปีที่แล้วอยู่ที่ 5.2 พันล้านบาท จากผลของมาตรการดอกเบี้ยสินเชื่อต่ำเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตามผลกำไร ฝของธนาคารในปีนี้ ยังเป็นบวกแต่ควิดว่าไม่มาก เทียบกับปีที่แล้วที่ติดลบราว 1 พันล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการกันสำรองที่สูงขึ้นบวกกับภาระการปฏิบัติตามมาตรฐานบัญชีใหม่

ในส่วนของซอฟท์โลนของ ธปท.นั้น มีลูกค้าของธนาคารได้ใช้วงเงินนี้ไป 3.3 พันล้านบาท คิดเป็นจำนวนราบ 1.5 พันราย ทั้งนี้ ซอฟท์โลนของธปท.ที่ให้ธนาคารเป็นผู้ปล่อยให้กับลูกค้า มีวงเงินรวม 5 แสนล้านบาท ปัจจุบันทุกธนาคารรวมกันปล่อยได้ 1.1 แสนล้านบาท