เชื่อใครดี? 'หมอ-ทำเนียบขาว' ให้ข่าวอาการป่วย 'ทรัมป์' ไม่ตรงกัน

ทีมแพทย์และทำเนียบขาวชี้แจงรายละเอียดอาการป่วยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ตรงกัน สร้างความสับสนแก่สื่ออเมริกันอย่างมาก ขณะหลายฝ่ายตั้งคำถามงานเสนอชื่อผู้พิพากษาหญิงให้เข้ารับการพิจารณาคุณสมบัติเป็นองค์คณะตุลาการศาลฎีกาที่สนามหญ้าหน้าทำเนียบคือต้นตอ “ซูเปอร์สเปรเดอร์” หรือไม่

เว็บไซต์ข่าวบีบีซี รายงานอ้างแถลงของนายฌอน คอนลีย์ แพทย์ประจำตัวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์มีอาการดีขึ้นมาก ไม่ต้องให้ออกซิเจน และตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ไม่มีไข้เลย แต่ปฏิเสธที่จะบอกว่าผู้นำสหรัฐจะออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อใด

นอกจากนี้ นายแพทย์คอนลีย์ ยังสร้างความสับสนด้วยการบอกว่าทีมแพทย์ติดตามอาการปวยของประธานาธิบดีทรัมป์มา 72 ชั่วโมงแล้ว นับตั้งแต่ผลการตรวจเป็นบวก ซึ่งหมายความว่าผู้นำสหรัฐ เดินสายหาเสียงในงานขนาดใหญ่2งานโดยที่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อโควิด-19

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา ทำเนียบขาว ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงประเด็นนี้ว่า นายแพทย์คอนลีย์ต้องการจะบอกว่า 3 วัน ไม่ใช่ 72 ชั่วโมงจริงๆ พร้อมทั้งยืนยันว่า ผู้นำสหรัฐได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ต้นตอของโรคโควิด-19 ช่วงเย็นของวันพฤหัสบดี (1 ต.ค.)

แต่คำพูดของนายแพทย์คอนลีย์ ก็ขัดแย้งกับคำพูดของนายมาร์ค มีโดว์ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ที่บอกว่า สัญญาณชีพของประธานาธิบดีทรัมป์ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาน่าเป็นห่วงมากและอีก 48 ชั่วโมงข้างหน้าถือเป็นช่วงวิกฤต

หลายฝ่ายจับตาไปที่งานแถลงบริเวณสวนกุหลาบของทำเนียบขาว เพื่อเสนอชื่อผู้พิพากษาหญิงเอมี โคดี บาร์เรตต์ ให้เข้ารับการพิจารณาคุณสมบัติเป็นองค์คณะตุลาการศาลฎีกา แทนตำแหน่งที่ว่างลง เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่าจะเป็นจุดกำเนิดของภาวะ “ซูเปอร์สเปรเดอร์” หรือไม่ เนื่องจากในบรรดาผู้ที่เข้าร่วมงานติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 7 คน โดยนอกจากทรัมป์ และนางเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ยังมีนางเคลลีย์แอนน์ คอนเวย์ อดีตที่ปรึกษาของผู้นำสหรัฐ นายคริส คริสตีย์ อดีตผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ด้วย