สธ. ยกย่อง อสม.ชื่ออินเตอร์ระดับโลก ประชาชนเชื่อถือ

สธ. ยกย่อง อสม.ชื่ออินเตอร์ระดับโลก ประชาชนเชื่อถือ

สธ. ยกย่อง อสม.ชื่ออินเตอร์ระดับโลก ประชาชนเชื่อถือ รุกแนะนำป้องกันโควิด 19

วันนี้ (30 กันยายน 2563) ที่ จังหวัดอุทัยธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดการประชุมวิชาการอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ภาคเหนือ กับ “อสม. เจ้าหน้าที่ สามัคคี ต้านโควิด-19”

นายอนุทินกล่าวว่า อสม.ช่วยทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรสาธารณสุขในการเป็นด่านหน้าช่วยเฝ้าระวัง คัดกรองโรคโควิด 19 ทำให้ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ ส่งผลให้ อสม.เป็นชื่ออินเตอร์ระดับโลก สร้างเกียรติยศ ชื่อเสียงให้ประเทศไทยว่า มีระบบสาธารณสุขที่ดีที่สุด ซึ่งประเทศใดที่ได้รับการยกย่องเชื่อถือว่ามีระบบสาธารณสุขที่ดี ทำให้ได้รับความสนใจจากต่างชาติในการมาท่องเที่ยว ลงทุน และมาพำนักถิ่นฐาน 

         

            สธ. ยกย่อง อสม.ชื่ออินเตอร์ระดับโลก ประชาชนเชื่อถือ

ทั้งนี้ ขอให้ อสม.รักษาเกียรติยศ ชื่อเสียงต้นทุนของความน่าเชื่อถือนี้ไว้ ไม่ใช่แค่เรื่องของความภาคภูมิใจ แต่เราต้องการให้ อสม.เป็นที่เชื่อถือในประชาชน ในการเป็นหมอประจำครอบครัว เมื่อพูดเรื่องสุขภาพแล้วประชาชนทำตาม เช่น การสร้างกระแสให้คนสวมหน้ากาก การล้างมือ การเว้นระยะห่าง เพื่อต่อสู้กับโรคโควิด 19 เนื่องจากเรายังไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่เราจำเป็นที่จะต้องเปิดประเทศมากขึ้น เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ 

สำหรับการลดการกักตัวจาก 14 วันนั้น ขณะนี้คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ศึกษาถึงการเจาะเลือดตรวจหาภูมิคุ้มกัน ซึ่งสามารถตรวจเจอได้หลังติดเชื้อ 4-5 วัน ว่ามีความแม่นยำเช่นเดียวกับการตรวจหาเชื้อตามมาตรฐาน ก็เป็นเหตุผลหนึ่งในการเสนอให้ลดการกักตัวจาก 14 วัน อาจเหลือเพียง 10 วัน หรือ 7 วัน เนื่องจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการกักตัวลงได้ แต่ยังอยู่ระหว่างการศึกษา อย่างไรก็ตาม หากอนาคตมีวัคซีนโควิด 19 ประเทศไทยจะฟื้นตัวเร็วกว่าประเทศอื่น

สธ. ยกย่อง อสม.ชื่ออินเตอร์ระดับโลก ประชาชนเชื่อถือ

สธ. ยกย่อง อสม.ชื่ออินเตอร์ระดับโลก ประชาชนเชื่อถือ

ด้านนายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้จัดประชุมวิชาการอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ครั้งที่ 4 โดยจัดครบทุกพื้นที่ 4 ภาค เป็นความยินดีอย่างยิ่งที่ได้พบปะพี่น้อง อสม. ภาคเหนือ โดยการประชุมทั้ง 4 ภาค ยังคงมีการเน้นตามมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรค การเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย เพื่อไม่ให้มีการรวมตัวเป็นจำนวนมาก ในพื้นที่ภาคเหนือมีจุดเด่นในด้านภาษา วัฒนธรรม การสื่อสาร ที่เข้าใจกัน มีผลงานนวัตกรรมที่โดดเด่น โดยท่านอนุทินได้มอบรางวัลให้กับอสม. ดีเด่น ระดับจังหวัด เขต ภาคภาคเหนือ และระดับชาติ 2563 พื้นที่ต้นแบบการส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพ ประจำปี 2563 ระดับเขตสุขภาพที่ 1, 2 และ3 สร้างขวัญและกำลังใจให้กับพี่น้อง อสม. เพราะการทำงานของ อสม. ในพื้นที่ได้เห็นผลเป็นที่ประจักษ์ คนในชุมชน เชื่อใจ มีภาพลักษณ์ที่ดี เป็นตัวแทนของชุมชน เป็นหมอของชุมชนอย่างแท้จริง