'สมศักดิ์' แจงคดี 'เสี่ยเบนซ์ชนฟอร์ด' เข้าเกณฑ์พักโทษปล่อยตัว 

'สมศักดิ์' แจงคดี 'เสี่ยเบนซ์ชนฟอร์ด' เข้าเกณฑ์พักโทษปล่อยตัว 

"สมศักดิ์" แจงยิบคดี "เสี่ยเบนซ์ชนฟอร์ด" เป็นนักโทษชั้นดี เข้าเกณฑ์พักโทษหลังจำคุกแล้ว 1 ใน 3

เมื่อวันที่ 3 ก.ย.63  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีกรมราชทัณฑ์ เตรียมพักโทษผู้ต้องขังที่เข้าข่ายได้รับการพักโทษ โดยจำนวนนั้นมีรายชื่อนายเจนภพ วีรพร จำเลยในคดี "เสี่ยเบนซ์ชนฟอร์ด" พื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้ 2 นักศึกษาปริญญาโทเสียชีวิต ซึ่งศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 4 ปี ปรากฎในโลกโซเชี่ยล ว่า ได้รับรายงานจากกรมราชทัณฑ์แล้วว่า น.ช.เจนภพ เป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นดี เรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในความผิดฐาน ความผิดต่อชีวิต กำหนดโทษ 4 ปี และได้รับพระราชทานอภัยโทษ ปี 2563 โดยได้รับลดโทษ 1 ใน 4 ตามมาตรา7(2) 

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน "เสี่ยเบนซ์ชนฟอร์ด" เหลือกำหนดโทษหลังจากได้รับอภัยโทษ 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.62 แต่ได้รับโทษจำคุกมาแล้ว 1 ปี 3 เดือน 28 วัน (นับถึง 2 ก.ย.63)​ จึงทำให้เหลือโทษจำต่อไป 1 ปี 8 เดือน 7 วัน โดยจะพ้นโทษ 8 พ.ค.65 ซึ่งทำให้เข้าเกณฑ์พักการลงโทษชั้นดี วันที่ 1 ต.ค.64 

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับนักโทษเด็ดขาดชายรายนี้ จะเข้าเกณฑ์พักการลงโทษชั้นดี วันที่ 1 ต.ค.64 และทางเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ทำหนังสือขอข้อมูลการสืบเสาะข้อเท็จจริงไปยังสำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร 9 เพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบการพิจารณาพักการลงโทษ โดยจะสามารถขอเอกสารสืบเสาะข้อเท็จจริงล่วงหน้าได้ 1 ปี ทั้งนี้ก่อนเข้าเกณฑ์การพักการลงโทษได้มอบหมายให้ สำนักงานคุมประพฤติได้ไปสอบถามญาติของผู้ตายในคดีนี้ทั้ง 2 คนแล้วว่ายังติดใจเอาความหรือไม่อย่างไร และได้รับการชดใช้เยียวยาหรือไม่

"ญาติผู้ตายในคดีนี้ระบุว่ายังติดใจเอาความและไม่ยินยอมน.ช เจนภพ ได้รับปล่อยตัวพักการลงโทษ ผมเข้าใจว่าเหตุที่เป็นประเด็นข่าว เพราะเมื่อไปถามญาติเขาแล้ว เลยมีข่าวว่า น.ช.เจนภพ จะได้รับการปล่อยตัวพักโทษ" รมว.ยุติธรรมกล่าว

นายสมศักดิ์ ยืนยันว่า หลักเกณฑ์การพิจารณาพักการลงโทษ จะต้องคำนึงถึงผลกระทบของการกระทำผิดต่อผู้เสียหายและสังคม รวมถึงการเยียวยาความเสียหายให้กับผู้เสียหายหรือผู้ตายด้วย อย่างไรก็ตามหากญาติผู้ตาย หรือ ผู้เสียหายยังติดใจเอาความ ก็ต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบว่า สมควรได้รับการพักการลงโทษหรือไม่