เปิดชื่อ 7 ผู้บริหารแอร์ไลน์บุกทำเนียบ ถกนายกฯ ลดผลกระทบโควิด
ผู้บริหาร 7 สายการบินในประเทศเข้าทำเนียบพบนายกนวันนี้ยื่นข้อเสนอขอรัฐบาลช่วยเหลือธุรกิจการบิน จี้เร่งแก้อุปสรรคซอฟท์โลน
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า เวลา 09.30 น. วันนี้ (28 ส.ค.) ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะหารือกับคณะผู้บริหารสายการบินในประเทศไทย ที่เข้าพบและยื่นหนังสือให้กับรัฐบาลเพื่อขอให้รัฐบาลพิจารณามาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจการบินของประเทศไทย อันเนื่องมาจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
โดยผู้บริหารสายการบินที่จะเข้าพบนายกรัฐมนตรีวันนี้มีทั้งหมด 7 สายการบิน ได้แก่
1.นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ประธานกรรมการบริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย
2.นายนัตดา บุรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์
3.นางชาริตา ลีลายุทธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยสมายล์แอร์เวย์
4.นายอัศวิน ยังกีรติวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยไลอ้อนแอร์
5.นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยเวียตเจ็ท
6.นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส
7.นายรัช ตันตนันตา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวกับกรุงเทพธุรกิจว่า วัตถุประสงค์ของการเข้าพบนายกรัฐมนตรี กลุ่มสายการบินในประเทศต้องการขอให้รัฐบาลมีมาตรการในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการสายการบิน หลังจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนทำให้ประสบปัญหาสภาพคล่องในการเดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทั้ง 7 สายการบินได้ยื่นข้อเสนอให้ภาครัฐช่วยเหลือ เช่น กระทรวงการคลัง และล่าสุดได้ยื่นข้อเสนอต่อกระทรวงคมนาคมให้ช่วยเหลือ 4 มาตรการ คือ
1.ขอให้เร่งรัดสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft loan) ซึ่งเบื้องต้นทราบว่ากระทรวงการคลัง ได้มอบให้ธนาคารออมสินเป็นผู้ดำเนินการแล้ว แต่ยังติดปัญหาการประเมินเรื่องหลักทรัพย์ค้ำประกัน
โดยผู้ประกอบการต้องการให้รัฐบาลผ่อนปรนให้นำใบอนุญาตประกอบการกิจการค้าขายในการเดินอากาศใหม่(AOL) ซึ่งเป็นใบอนุญาตฯ ที่ได้รับจาก กพท. แปลงเป็นทุนได้หรือไม่ เพราะถือเป็นใบสำคัญที่สามารถนำมาหารายได้ และนำไปเช่าซื้อเครื่องบินได้
2.เสนแขอขยายเวลาการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบิน จาก 4.726 บาท/ลิตร เหลือ 0.20 บาท/ลิตร ซึ่งจะสิ้นสุดสิ้นเดือน ก.ย.นี้
3.ขยายเวลาการลดค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยาน (Landing) และค่าบริการที่เก็บอากาศยาน (Parking) ในอัตรา 50% ซึ่งจะสิ้นสุดเดือน ธ.ค.นี้ออกไปอีก
4.ขอให้รัฐบาลช่วยปลดล็อกให้ผู้ประกอบการสายการบินสามารถจำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่มบนเครื่องบินได้ตามปกติ โดยมอบให้ผู้ประกอบการไปจัดทำรายละเอียดมาว่า จะมีวิธีการจำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่มบนเครื่องบินอย่างไรเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19