มติอนุกมธ.ฝ่ายรัฐบาล 5-4 ซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ 2.25 หมื่นล้าน

มติอนุกมธ.ฝ่ายรัฐบาล 5-4 ซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ 2.25 หมื่นล้าน

อนุกมธ.ครุภัณฑ์ ฝ่ายรัฐบาล 3 พรรค โหวตผ่านมติ 5-4 เสียง ไฟเขียวกองทัพเรือ จัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ มูลค่า 2.25 หมื่นล้าน ”ยุทธพงศ์” ปูด “สุพล” ประธานอนุฯ โหวตช่วย เผยเสียงข้างน้อยชี้วิกฤตเศรษฐกิจ-โควิด ยังไม่จำเป็น

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 แถลงข่าวที่รัฐสภา วานนี้(21ส.ค.) ในฐานะโฆษก กมธ.งบฯ 2564 ภายหลังประชุมคณะอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ฯ ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณางบจัดซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีน ของกองทัพเรือ จำนวน 2 ลำ วงเงิน 22,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่สอง ภายหลังจากที่ครั้งแรก ทางคณะอนุ กมธ.แขวนไว้ เพราะยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะให้ซื้อหรือไม่

โดยทางกองทัพเรือได้ให้เหตุผลว่า ที่ต้องซื้อเรือดำน้ำ เพราะไทยได้ลงนามในเอ็มโอยูกับจีนไว้แล้วว่าต้องซื้อ 3 ลำ โดยลำแรกได้จัดซื้อไปแล้วด้วยงบประมาณปี 2560 ซึ่งจะได้รับเรือในปี 2567 อีก 2 ลำ ที่จะใช้งบปี 2564 นั้นทางอนุ กมธ.สอบถามว่า ยังไม่ซื้อได้หรือไม่ แล้วจะถูกฟ้องร้องหรือไม่

นายยุทธพงศ์ ระบุว่า วันนี้กองทัพเรือได้นำเอ็มโอยูซื้อเรือลำน้ำลำแรกมา ปรากฏว่าในเอ็มโอยูไม่ได้เขียนว่า ไทยจะต้องซื้อลำที่ 2 และลำที่ 3 ไม่ได้ผูกพันกันไว้ มีแต่เพียงระบุว่า ถ้าเกิดปัญหาในข้อตกลง หรือเกิดความขัดแย้งให้เจรจากันอย่างฉันมิตร ไม่มีการขึ้นศาลหรือคดีต่อกัน นี่คือเอ็มโอยูที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เซ็นไว้กับ รมว.กลาโหมของประเทศจีน

“ผมอยู่ในฝั่งที่ไม่ให้ซื้อ โดยบอกว่า เมื่อไม่ได้มีข้อตกลงให้ซื้อลำ 2 ลำ 3 ทางกองทัพอ้างอย่างเดียวว่าเพื่อความมั่นคงทางทะเล ทางผมสู้ว่า มีปัญหาด้านเศรษฐกิจ รัฐบาลกู้จนเต็มเพดาน ประชาชนเดือดร้อน สังคมมีปัญหาอาชญากรรม เพราะคนตกงานไม่มีอันจะกิน ทาง กมธ.ในส่วนที่ไม่ให้ซื้อ บอกว่ายังไม่จำเป็นต้องซื้อในปีนี้ ให้เลื่อนออกไปก่อน” รองประธานคณะอนุกมธ.ครุภัณฑ์ กล่าว

นายยุทธพงศ์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมตกลงกันไม่ได้ ทำให้ นายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะอนุ กมธ. สั่งพักการประชุม และเริ่มอีกครั้งในเวลา 14.15 น. พร้อมสั่งให้ลงมติ โดยในฝั่งที่ลงมติไม่ให้จัดซื้อเรือดำน้ำ ประกอบด้วย ตน นายเรวัต วิศรุตเวช พรรคเสรีรวมไทย นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม พรรคเพื่อไทย น.ส.วรรณวรี ตะล่อมสิน พรรคก้าวไกล 

ส่วนผู้ที่โหวตให้ผ่าน ได้แก่ นายชยุต ภุมมะกาญจนะ พรรคภูมิใจไทย นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา พรรคพลังประชารัฐ นายจีรเดช ศรีวิราช พรรคพลังประชารัฐ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีเสียงเท่ากัน สุดท้ายประธานคณะอนุกมธ.ออกอีกเสียงหนึ่ง เห็นชอบให้ซื้อเรือดำน้ำ เป็นอันว่า ประเทศไทยซื้อเรือดำน้ำจีนอีก 2 ลำในภาวะที่คนไทยกำลังอดอยาก

นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า ตนและนายครูมานิตย์จะขอคัดค้านการซื้อเรือดำน้ำดังกล่าว เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชน เพราะเห็นว่าไม่จำเป็นในการซื้อ อีกทั้งลำที่หนึ่งที่ได้ซื้อไปแล้วยังไม่ได้ของ ซึ่งกว่าจะได้ก็ปี 2567 เรื่องนี้นายกฯ ต้องเลือกระหว่างซื้อเรือดำน้ำ กับความอดอยากของประชาชน ชาวบ้านบอกให้ช่วยเนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด รัฐบาลบอกไม่มีเงิน เห็นเรือดำน้ำสำคัญกว่าชีวิตประชาชนได้อย่างไร

ด้านนายครูมานิตย์ ระบุว่า วันนี้ยังไม่มีความจำเป็นในการจัดซื้อเมื่อเทียบกับความอดอยากของประชาชนทุกภาค เราไม่ได้คัดค้านไม่ให้ซื้อ แค่อยากให้ชะลอไว้ก่อน ถ้าประชาชนไม่อดอยาก จะซื้อ 4-5 ลำก็ซื้อไป แต่ช่วง 4-5 ปีมานี้ ทหารใช้งบประมาณแทบจะมากกว่าทุกกระทรวงอยู่แล้ว