“ฝรั่งสามพราน” มาแรง! ดันผลไม้ GI ไทยรายได้ทะลุ 350 ล้านต่อปี

ตลาด “ฝรั่ง” โลกขยายตัวแรงจากกระแสรักสุขภาพ มูลค่าตลาดปี 2568 สูงถึง 13,250 ล้านดอลลาร์ คาดแตะ 21,280 ล้านดอลลาร์ในปี 2575 ขณะที่ไทยชูจุดขาย “ฝรั่งสามพราน” GI เด่นเรื่องรสหวาน เนื้อกรอบล่อน สร้างรายได้ชุมชนกว่า 350 ล้านบาทต่อปี หลังกรมทรัพย์สินทางปัญญาเร่งมาตรฐาน–ผลักดันการตลาดสู่แพลตฟอร์มพรีเมียม
KEY
POINTS
- “ฝรั่งสามพราน” จาก จ.นครปฐม ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) มีจุดเด่นที่เนื้อกรอบ รสชาติหวาน และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
- การขึ้นทะเบียน GI ช่วยสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรในชุมชนมากกว่า 350 ล้านบาทต่อปี จากปริมาณผลผลิตกว่า 11,631 กิโลกรัมต่อปี
- สถานะสินค้า GI ส่งผลให้ราคาขายปลีกเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 50-70 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมที่ราคาประมาณ 30 บาทต่อกิโลกรัม
- กรมทรัพย์สินทางปัญญาเร่งมาตรฐาน–ผลักดันการตลาดสู่แพลตฟอร์มพรีเมียม
“ฝรั่ง “(Guava) เป็นผลไม้เมืองร้อนที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจในหลายประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย การผลิตและการค้าโลกมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปผลสดและผลิตภัณฑ์แปรรูป เช่นน้ำผลไม้ ผลไม้สด เป็นต้น
โดยในปี 2568 มีขนาดตลาด มูลค่า 13,250.75 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 425,000 ล้านบาท) คาดว่าปี 2575 มูลค่าจะเพิ่มเป็น 21,280.40 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 685,860 ล้านบาท) มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (2569 – 2576) 6.2% ซึ่งฝรั่งสด (Fresh Guava) มีส่วนแบ่งตลาด 59.3%ภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุด คือ เอเชีย – แปซิฟิก (ครองตลาด 48.7%) ส่วนประเทศผู้นำตลาด คืออินเดีย (ครองตลาด 32.5%)
ตลาดฝรั่งทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 2568 – 2579 โดยมีปัจจัยสำคัญ คือความตระหนักด้านสุขภาพของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เช่น ฝรั่งสด และผลิตภัณฑ์แปรรูป เช่น น้ำฝรั่ง แยม ฝรั่งอบแห้ง เป็นต้น
สำหรับ ภาพรวมฝรั่งภายในประเทศไทยมีแนวโน้มที่น่าสนใจและมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยม เช่น ฝรั่งกิมจู และฝรั่งไส้แดง เป็นต้น ซึ่งฝรั่งกิมจู เป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมสูงในตลาด เนื่องจากมีรสชาติหวาน กรอบ และเนื้อฟู เกษตรกรที่ปลูกฝรั่งกิมจูสามารถวางแผนการผลิตเพื่อให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดตลอดทั้งปี ซึ่งช่วยให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างสม่ำเสมอ
ทั้งนี้ฝรั่งเป็นผลไม้ที่ปลูกได้ทั่วประเทศไทย โดยเฉพาะใน ราชบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร พันธุ์ที่นิยมปลูกมีหลายแบบ เช่น แป้นสีทอง กิมจู กลมสาลี่ และเวียดนาม เป็นต้น ซึ่งแต่ละพันธุ์มีลักษณะเด่นที่แตกต่างกันไป เช่น ความกรอบ หวาน หรือมีเมล็ดมากน้อย เป็นต้น
โดยเฉพาะ"ฝรั่งสามพราน" จ.นครปฐม ทางกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือสินค้าจีไอ ( GI) เมื่อวันที่ 3 ม.ค.568 ที่ผ่านมา ซึ่ง “ฝรั่งสามพราน”มีเอกลักษณ์โดดเด่นและเป็นที่นิยมของผู้บริโภค ด้วยความพิเศษของเนื้อที่กรอบล่อน ไม่ติดเมล็ด เนื้อมี สีขาวหรือสีชมพูขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ รสชาติหวานหรือหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย ไม่ฝาด “ ซึ่งผลผลิตที่ได้จะมีคุณภาพสูงสุดเมื่อปลูกในช่วงฤดูหนาว
“อรมน ทรัพย์ทวีธรรม” อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ฝรั่งสามพรานมี 7 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์กิมจู พันธุ์สุ่ยมี่ พันธุ์แป้นสีทอง พันธุ์สาลี่ทองไร้เมล็ด พันธุ์หงเป่าสือ พันธุ์เฟิ่นหงมี่ และพันธุ์แตงโม ปลูกในพื้นที่อำเภอสามพรานและอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
ลักษณะทางภูมิศาสตร์เป็นพื้นที่ลุ่มแม่น้ำนครชัยศรีที่พัดพาตะกอนดินและธาตุอาหารต่างๆ มาทับถมกัน สภาพน้ำที่มีความกร่อยหรือความเค็มที่พอดี ประกอบกับการมีระบบชลประทานที่ดี ทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูก
“ฝรั่งสามพราน” มีปริมาณผลผลิตกว่า 11,631 กิโลกรัมต่อปี ส่งจำหน่ายในตลาดค้าผลไม้ขนาดใหญ่ ทั้งตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดเมืองทอง ตลาดศรีเมือง รวมทั้งร้านค้าเครือข่าย Lemon Farm และแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนกว่า 350 ล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ภายหลังจากขึ้นทะเบียน GI แล้ว กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ส่งเสริมการจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า GI ฝรั่งสามพรานอย่างต่อเนื่อง โดยมีกระบวนการตรวจสอบอย่างเข้มข้น และเมื่อเดือนต.ค. 2568 ที่ผ่านมา กรมได้ออกหนังสืออนุญาตให้ใช้ตรา GI ไทยแก่ผู้ประกอบการฝรั่งสามพรานที่ยื่นขอใช้ตรา GI และผ่านการตรวจสอบคุณภาพการผลิต 36 ราย ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคว่าจะได้รับสินค้าตรงตามมาตรฐาน GI ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรม
ตลอดจนส่งเสริมช่องทางการตลาดผ่านห้างสรรพสินค้าชั้นนำและแพลตฟอร์มออนไลน์ ส่งผลให้ปัจจุบันฝรั่งสามพรานมีราคาขายปลีกเฉลี่ยอยู่ที่ 50 – 70 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้นประมาณ 1.7 – 2.3 เท่า จากช่วงก่อนเป็น GI ที่มีราคาอยู่ที่ 30 บาทต่อกิโลกรัม
ล่าสุดทางกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ลงพื้นที่แหล่งผลิตสินค้า GI “ฝรั่งสามพราน” จังหวัดนครปฐม ตรวจเยี่ยมกระบวนการผลิตสินค้าตามมาตรฐาน GI พร้อมหารือเกษตรกร ผู้ประกอบการ หน่วยงานท้องถิ่น ถึงแนวทางยกระดับผลผลิต GI ในปี 2569 สนองต่อนโยบาย Quick Big Win ของกระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งใช้ประโยชน์จาก GI เป็นทางรอดสำหรับผู้ประกอบการในยุคปัจจุบัน
แม้ว่าตลาดฝรั่งจะมีแนวโน้มเติบโตจากกระแสความต้องการผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เช่น อาหารฟังก์ชันและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ตลอดจนการขยายตัวของช่องทางจำหน่ายออนไลน์ที่เอื้อต่อการเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ฝรั่งแปรรูปยังเป็นส่วนที่มีอัตราการเติบโตสูง เนื่องจากมีอายุการเก็บรักษานานและมีความสะดวกต่อการบริโภค
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงเผชิญปัจจัยความเสี่ยงหลายประการ ได้แก่ ความเน่าเสียง่ายของผลผลิตสด ระบบโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งที่ยังไม่เพียงพอ รวมทั้งความผันผวนของสภาพอากาศ ซึ่งอาจส่งผลต่อผลผลิตและคุณภาพของสินค้าในแต่ละฤดูกาล ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญามีแนวทางที่ส่งเสริมเพื่อเพิ่มศักยภาพ ทั้ง พัฒนาศักยภาพผู้ผลิตสินค้า GI ตลอดจนเสริมทักษะด้านการบริหารจัดการ การตลาดออนไลน์ การสร้างแบรนด์ การจัดทำเรื่องราวผลิตภัณฑ์ (Product Story)
นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ การแปรรูป และการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมทั้ง ขยายช่องทางการตลาดในประเทศและต่างประเทศ และ บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานภายนอกและระดับนานาชาติ เพื่อสร้างการยอมรับและผลักดันสินค้า GI ไทยเข้าสู่ตลาดสากลอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างรายได้กลับสู่ชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป







