อนุทิน ฮึ้ม สู้ต่อคดีโฮปเวลล์ ชูปมจดทะเบียนมิชอบ

อนุทิน ฮึ้ม สู้ต่อคดีโฮปเวลล์ ชูปมจดทะเบียนมิชอบ

"อนุทิน" ยันเดินหน้าสู้คดีโฮปเวลล์ คมนาคมลุ้นศาลปกครองตัดสินปมจดทะเบียนมิชอบ ย้ำยังมีโอกาสอีกมาก พร้อมเจรจาลดมูลหนี้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยในฐานะรองนายกฯ กำกับดูแลกระทรวงคมนาคม ระบุถึงกรณีศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลาง ไม่รับคำร้องของกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) โดยให้กระทรวงคมนาคม ร.ฟ.ท.ดำเนินการตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ จ่ายเงินชดเชยให้ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) โดยระบุว่า เรื่องนี้รัฐบาลจะสู้ไม่ถอยอยู่แล้ว เพราะคดีแบบนี้จะให้รัฐไปยอมจ่ายค่าชดเชยจำนวนมากง่ายๆ คงไม่ได้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ได้รับรายงานจาก ร.ฟ.ท.อย่างเป็นทางการ ทราบจากข่าวที่ออกมาเท่านั้น แต่ก็เคารพคำตัดสินของศาลที่ออกมา โดยเบื้องต้นได้มีการหารือกับทาง ร.ฟ.ท.เพื่อดูรายละเอียดว่าจะมีวิธีดำเนินการอย่างไรได้อีกบ้าง โดยขณะนี้ให้ฝ่ายกฎหมายกำลังศึกษาอยู่ ยืนยันกระทรวงฯ จะต้องทำจนถึงที่สุด

อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน ร.ฟ.ท.ได้ยื่นฟ้องศาลศาลปกครองเพื่อขอให้ศาลพิจารณาหลักฐานกรณีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทขัดกับข้อกฎหมาย ซึ่งอยู่ระหว่างรอว่าศาลจะรับคำร้อง โดยข้อมูลที่มีอยู่นั้น ถือเป็นข้อมูลใหม่ ในเรื่องความไม่สมบูรณ์ของการจดทะเบียนบริษัทที่ทำให้ผลการทำนิติกรรมสัญญาอาจมิชอบ โดยฝ่ายทนายความ ร.ฟ.ท.ดำเนินการอยู่ และยืนยันว่ากระทรวงฯ ก็จะต้องทำให้ครบทุกช่องทาง

นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังได้ส่งข้อมูลเอาผิดในคดีอาญา ซึ่งปัจจุบันกระทรวงฯ ได้ส่งข้อมูลไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อช่วยพิจารณาข้อมูลในประเด็นการทำสัญญาที่เกิดจากการทุจริต ดังนั้น ยืนยันว่าเรื่องนี้ผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการรักษาผลประโยชน์ประเทศชาติ และประชาชน โดยมั่นใจกับเรื่องที่ดำเนินการ แต่ก็ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของศาลด้วย

ขณะเดียวกัน กระทรวงฯ ยังได้ดำเนินการคู่ขนานในเรื่องของการเจรจาผลวงเงินชดเชยกับบริษัทโฮปเวลล์ ซึ่งตนได้ตั้งคณะทำงานโดยมีนายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน โดยขณะนี้ทราบว่ามีความคืบหน้า แต่ตนยังไม่ได้รับการรายงาน

“เม็ดเงิน 2 หมื่นกว่าล้านบาท หากทำให้เกิดผลกระทบต่อประเทศชาติ ก็ต้องทำให้ครบทุกช่องทาง ซึ่งขณะนี้ถือว่ามีเวลา 90 วันที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย หลังจากที่ศาลตัดสินไปเมื่อวานนี้ ส่วนเรื่องอัตราดอกเบี้ย 7.5% ขณะนี้ดอกเบี้ยจะไม่เดินรายวัน เพราะก่อนหน้านี้กระทรวงฯ ได้ดำเนินการขอชะลอการบังคับคดี ทำให้ทุกเรื่องยังอยู่ที่เดิม ไม่มีภาระเพิ่มขึ้น"