ศบค.ทบ.เตรียมรับกองร้อยทหารราบ กลับจากฮาวาย 151 นาย

ศบค.ทบ.เตรียมรับกองร้อยทหารราบ กลับจากฮาวาย 151 นาย

ผอ.ศบค.ทบ. เผยขั้นตอนรับกองร้อยทหารราบ กลับจากการฝึกผสม Lightning Forge 2020 ที่รัฐฮาวาย ยืนยันให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด พร้อมเพิ่มหลายมาตรการเข้มข้น-ชุดแพทย์พระมงกุฎ เกาะติดจนครบ 14 วัน

เมื่อวันที่ 21 ก.ค.63  พล.อ.ณฐพนธ์ ศรีสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กองทัพบก (ศบค.ทบ.) เป็นผู้แทนกองทัพบก แถลงถึงการเตรียมการรับกองร้อยทหารราบ จำนวน 151 นาย กลับจากการฝึกผสม รหัส Lightning Forge 2020 ณ มลรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา เพื่อสร้างการรับรู้และความเชื่อมั่นให้กับประชาชน โดยเฉพาะญาติของกำลังพล ซึ่งจะเดินทางกลับถึงประเทศไทย ในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ เที่ยวบิน TG 8087 เวลาประมาณ 17.40 น. โดยกองทัพบกเช่าเหมาลำอากาศยานของบริษัทการบินไทยทั้งไปและกลับ

ทั้งนี้ ตลอดช่วงการฝึก กำลังพลได้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัดภายใต้มาตรการฝึกแบบ Bubble Training ไม่อนุญาตให้กำลังพลออกนอกพื้นที่ฝึก จึงมั่นใจเรื่องความปลอดภัยได้ และทหารก็มีวินัย โดยก่อนเดินทางกลับก็ต้องกักตัว 14 วัน ตรวจเชื้อโควิด 2 ครั้ง และเมื่อถึงประเทศไทย ก็จะปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค. นอกจากนี้กองทัพบกยังได้มีมาตรการเพิ่มเติม คือ ก่อนเดินทางกลับ มีการจัดแบ่งกำลังพลออกเป็นกลุ่ม ตามหมายเลข 1-151 มีการเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง เมื่อมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทุกนายจะสวมใส่หน้ากากอนามัย และแว่นตาป้องกัน เน้นมาตรการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ผ่านจุดจัดครองด่านควบคุมโรคติดต่อ

นอกจากนี้ กองทัพบกได้จัดชุดแพทย์เพิ่มเติมจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ประสานการปฏิบัติกับชุดแพทย์กระทรวงสาธารณสุข ที่ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต่อไปเป็นการเคลื่อนย้ายกำลังพลไปยังพื้นที่กักกันโรค State Quarantine ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน พัทยา จังหวัดชลบุรี โดยมีกระจกกั้นกับพลขับด้วย ไม่แวะพักระหว่างทาง และมีชุดแพทย์จากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ติดตามขบวนตลอดการเดินทาง

สำหรับยุทโธปกรณ์ที่นำไปทำการฝึก ได้แยกไปดำเนินการฉีดฆ่าเชื้อ โดยเจ้าหน้าที่ของกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายไปยังค่ายสุรนารี .นครราชสีมา  ซึ่งจะมีการฉีดฆ่าเชื้อซ้ำอีกครั้ง ก่อนที่จะนำเก็บเข้าไว้ในคลังยุทโธปกรณ์

ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ยังบอกด้วยว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นห่วงกำลังพลในช่วงที่กักตัว 14 วัน จะอยู่กันอย่างไร กลัวไม่มีอะไรทำ จึงได้ฝากการบ้านให้ทหารที่กักตัว จัดทำรายงานถอดบทเรียนการฝึกกันผ่านระบบวีทีซี หรือในกรุ๊ปไลน์ โดยให้ทำอาฟเตอร์รีวิว เพื่อเป็นแผนบทเรียนของกองทัพในการฝึก อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการทหารบก อาจจะเดินทางไปรับกำลังพลที่กลับจากฮาวายในวันพรุ่งนี้ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ด้านพล.ท.ชาญชัย ติกขะปัญโญ เจ้ากรมแพทย์ทหารบก กล่าวว่า ในส่วนพื้นที่กักกันโรค โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน พัทยา โดยความรับผิดชอบของมณฑลทหารบกที่ 14 มีการปฏิบัติ จะมีการเตรียมเจ้าหน้าที่ทหารเพิ่มเติม จากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ และโรงพยาบาลค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี ในการสนับสนุนงานด้านรักษาความปลอดภัย และการรักษาพยาบาล ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของ ศบค. ประจำพื้นที่ จากนั้นกำลังพลจะได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยเจ้าหน้าจากกรมควบคุมโรค จำนวน 2 ครั้ง ในวันที่ 25 กรกฎาคม และ 3 สิงหาคม มีการวัดไข้และรายงานทุกวัน และมีนักจิตเวช/นักจิตวิทยาคอยให้คำปรึกษาตลอดเวลา

นอกจากนี้ กำลังพลทุกนายจะต้องปฏิบัติตามระเบียบำอย่างเคร่งครัด ไม่อนุญาตให้ออกนอกห้องพัก มีกล้อง CCTV เฝ้าตรวจตลอด 24 ชั่วโมง งดการเยี่ยมญาติ โดยได้ดำเนินการแบ่งการจัดกำลังพลออกเป็นหมวด หมู่ อย่างชัดเจน เพื่อให้การควบคุมบังคับบัญชา เมื่อครบกำหนดการกักตัวในวันที่ 6 สิงหาคมแล้ว กำลังพลทุกนายจะได้รับหนังสือรับรอง และกองทัพบกจะจัดรถโดยสารนำกำลังพลส่งกลับภูมิลำเนาต่อไป