'ธนาธร' ชวนร่วมชุมนุม ซัดปรับ 'ครม.เศรษฐกิจ' ไร้น้ำยา หากหัวโขนยังอยู่

"ธนาธร" เชิญชวนประชาชนร่วมชุมนุม เรียกร้องไม่เอารัฐบาลสืบทอดอำนาจ-การทำรัฐประหาร ซัดการปรับ ครม.เศรษฐกิจ ไร้น้ำยา หากหัวโขนยังอยู่ มองการประกาศรายชื่อ 13 ขุนพลปฏิรูป เหมือนเป็นการตบรางวัลให้กับคนที่ช่วยสนับสนุน คสช.

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงการจัดงานเสวนาหัวข้อ "กกต.ไทยอย่างไรต่อดี?" ว่า เป็นการชี้ให้ประชาชนเห็นว่า กกต.มีปัญหาในการปฏิบัติงานอย่างไร และทิศทางควรจะเป็นอย่างไร ซึ่งผู้ร่วมเสวนาก็เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงทั้งในอดีตและปัจจุบัน จึงหวังว่าจะนำไปสู่ข้อเสนอในการปฏิรูปองค์กรอิสระ และความเห็นพ้องต้องกันของประชาชน ที่จะเรียกร้องให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2560

ส่วนที่มีตัวแทนจากที่ยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มาร่วม ถือเป็นสัญญาณว่าทุกพรรคเห็นพ้องในการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายธนาธร ระบุว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปฏิรูปองค์กรอิสระ ไม่ได้มีแต่คณะก้าวหน้า พรรคก้าวไกลที่พูดถึงเรื่องนี้ แต่มีพรรคการเมืองอื่นๆ ที่พูดถึงเรื่องนี้ ดังนั้นสิ่งใดที่ร่วมกันได้ ก็พร้อมยินดีร่วมมือกับทุกฝ่าย

ส่วนกรณีการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาที่อนุสาวรย์ประชาธิปไตยเย็นนี้ นายธนาธร กล่าวว่า ในขณะที่ไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมใดๆ ก็ยังถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ชักใย สนับสนุน มองว่านักศึกษาทำกิจกรรมด้วยเจตจำนงที่แน่วแน่ พวกเราไม่ได้มีส่วนเข้าไปร่วมตัดสินใจ ดังนั้นจึงไม่ได้ไปเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ เนื่องจากกลัวว่าไปแล้วจะถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลัง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้ให้กำลังใจ ซึ่งตนขอส่งกำลังใจให้กับนักศึกษาและประชาชนที่ต้องการเรียกร้องให้ประเทศไทย กลับสู่ประชาธิปไตย และต่อสู้กับเผด็จการ รวมถึงชวนประชาชนที่ได้ยินเสียงตนขอให้สนับสนุนกลุ่มนักศึกษากลุ่มนี้ด้วย

"ให้ไปร่วมชุมนุมในครั้งนี้ ขอเชิญชวนไปร่วมชุมนุมในครั้งนี้ ว่าเราไม่ต้องการรัฐบาลที่มาจากการสืบทอดอำนาจหรือการทำรัฐประหาร และต้องการให้ประเทศเดินกลับสู่ประชาธิปไตย"

159505967412

ขณะที่กรณีมีภาพเหมือนไปคาราวะ 2 นักเคลื่อนไหว ที่มาชูป้ายขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ระหว่างลงพื้นที่ จ.ระยอง จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นผู้สนับสนุน นายธนาธร ชี้แจงว่า การแสดงออก การวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย เป็นสิ่งที่ชอบธรรมในระบอบประชาธิปไตย ในต่างประเทศเวลาเคลื่อนไหว ก็มีการใช้คำที่รุนแรงมากกว่านี้ พร้อมมองว่าการเคลื่อนไหว ไม่ใช่เรื่องการใช้คำหยาบ แต่มองว่าเป็นความกล้าหาญ ในการท้าทายอำนาจที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งทุกวันนี้ คนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ก็ถูกคุกคาม ยัดข้อหา ยัดคดี ซึ่งเป็นสิ่งที่คนธรรมดากลัว ดังนั้นจึงต้องปกป้องกัน และขอบคุณคนที่กล้าหาญที่ลุกขึ้นมาพูดในสิ่งที่คนทั่วไปไม่กล้า เพราะเขาพูดแทนคนส่วนใหญ่ของประเทศ

เมื่อถามถึงการปรับคณะรัฐมนตรี ทีมเศรษฐกิจที่มีการเปิดรายชื่อของประธานสมาคมธนาคารธนาคารไทย นายปรีดี ดาวฉาย มาร่วม ครม. นายธนาธร มองว่า ไม่ใช่เรื่องสำคัญ รายชื่อทีมเศรษฐกิจไม่สำคัญ ตราบใดที่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจยังเป็นคนเดิม การเปลี่ยนทีมทำงานแต่หัวหน้าทีมไม่เปลี่ยน คิดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะอะไรกับการดำเนินการทางเศรษฐกิจ

ในฐานะที่ตนนั่งดูการใช้งบประมาณของประเทศ โดยเฉพาะกฎหมายงบฯ ปี 64 ที่กำลังพิจารณา มูลค่า 3.3 ล้านล้านบาท ตนเห็นชัดว่างบประมาณถูกใช้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ตอบสนองความเดือดร้อนประชาชน และไม่สามารถพาประเทศไทยไปต่อสู่กับโลกาภิวัฒน์ได้ หากไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับหัว ดังนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงการใช้งบประมาณ ไปสู่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคง และยั่งยืน พร้อมย้ำว่า "ไม่สำคัญว่าใครจะเข้ามา ถ้าหากหัวไม่เปลี่ยนก็ไม่มีความหมายอะไร"

เมื่อถามถึงการประกาศรายชื่อคณะกรรมการปฏิรูป 13 ด้าน นายธนาธร กล่าวว่า คณะกรรมการปฏิรูป หรือ คณะกรรมการยุทธศาสตร์แห่งชาติ ตนขอพูดตรงๆ ว่าเป็นองค์กรที่ตั้งขึ้นมาเพื่อแสดงให้ประชาชนเห็นว่าจะมีการปฏิรูปและมียุทธศาสตร์ของประเทศในระยะยาว แต่ในแง่ความเป็นจริงการใช้งบประมาณ ปี 63 และ ปี 64 ก็ยังเห็นว่าเหมือนเดิมทุกอย่าง ดังนั้นตนจึงไม่เชื่อและไม่มีความศรัทธาองค์กรเหล่านี้เลย ว่าจะนำไปสู่การปฏิรูปประเทศจริงๆ ได้ โดยเฉพาะหากดูรายชื่อจะเห็นชัดว่าหลายคนก็เป็นคนที่สนับสนุนการทำรัฐประหารของ คสช.มาทั้งนั้น

ดังนั้นเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เจตนา ที่จะปฏิรูปอย่างเดียว แต่เป็นการตบรางวัลให้กับคนที่ช่วย สนับสนุน คสช. และช่วยในการทำรัฐประหารมากกว่า จึงไม่ต้องสงสัยว่า คณะกรรมการปฏิรูปและคณะกรรมการยุทธศาสตร์แห่งชาติ จะไม่มีบทบาทในการพาประเทศไทยไปข้างหน้า