ลูกสาวนายพล เหยื่อผู้กองข่มขืนถ่ายแบล็คเมล์ ร้อง 'สตช.' หวั่นไม่เป็นธรรม

ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ที่ปรึกษาทนายความ นำ น.ส.เอ (นามสมมติ) บุตรสาวอดีตข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ยศนายพล นำเอกสารหลักฐานพร้อมข้อความแชททางไลน์ที่ผู้เสียหายถูกข่มขู่ ซึ่งเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมมอบให้ พ.ต.ท.หญิง ธนัชชา ธนาดลพิพัฒน์ รองผู้บังคับการฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ กองบังคับการอำนวยการสำนักงานจเรตำรวจ เพื่อร้องขอความเป็นธรรม กรณีถูกนายตำรวจ ยศ ร.ต.อ. สังกัดนครบาล ข่มขืนก่อนนำภาพและคลิปวิดิโอ ไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียทำให้ตนเองได้รับความเสื่อมเสีย อีกทั้ง เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากคณะกรรมการตรวจสอบวินัย เป็นนายตำรวจสังกัดเดียวกันกับ ร.ต.อ. อีกทั้งคู่กรณีจะได้รับการแต่งตั้งเป็นสารวัตร วาระประจำปีที่จะถึงนี้

สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้น 3 ท้องที่คือ สน.พระโขนง ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และรีดเอาทรัพย์ ส่วน สน.คลองตัน แจ้งความคดีข่มขืน เพราะมีห้องพักในท้องที่ และสน.บุคคโล แจ้งความเอาผิดเรื่องวินัย ที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่เหมือนเดิม

ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้พิจารณาเรื่องการสอบวินัยกับ ร.ต.อ. ผู้ถูกกล่าวหาว่าไปข่มขืนผู้เสียหาย เนื่องจากมีการให้ต้นสังกัด ตั้งคณะกรรมสอบสวนข้อเท็จจริง อีกทั้งยังมีผู้บังคับบัญชาในกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 เคยออกมาให้ข่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัวหรือไม่ ทำให้ไม่มั่นใจว่าการสอบสวนทางวินัยกับร.ต.อ. ผู้ถูกกล่าวหา

อีกทั้ง หลังจากที่ผู้เสียหายได้ออกมาร้องเรียน ทางผู้ถูกกล่าวหาก็ได้โทรศัพท์ และส่งข้อความทางแอพพลิเคชันไลน์มาข่มขู่ผู้เสียหายว่า ฝ่ายภรรยาของ ร.ต.อ. จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในข้อหาเป็นชู้กับสามีผู้อื่น จะแจ้งความดำเนินคดีติดสินบนเจ้าพนักงาน กรณีที่ให้ช่วยวิ่งเต้นคดีที่ญาติของผู้เสียหายถูกจับกุมคดียาเสพติด และที่สำคัญคือจะไปบอกสามีชาวต่างชาติของผู้เสียหายที่ยังไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ว่าผู้เสียหายมีพฤติกรรมอย่างไร นอกจากนี้ยังมีการเย้ยหยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่สามารถทำอะไรกับ ร.ต.อ. ผู้ถูกกล่าวหาได้ เพราะการแต่งตั้งโยกย้ายประจำปีนี้ จะได้ขึ้นตำแหน่งเป็นสารวัตร ยศพันตำรวจตรีด้วยหรือไม่

ผู้เสียหาย กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ธันวาคม 2562 โดยตนเองรู้จักกับนายตำรวจคนดังกล่าว จากการที่มีญาติติดคุกอยู่ในเรือนจำ จึงได้ให้ ร.ต.อ. คนดังกล่าวประสาน เนื่องจากเป็นเจ้าของคดี จากนั้นก็มีการติดต่อกันเรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2562 ตำรวจคนดังกล่าวขอมาดื่มสุราในห้องพักของตน ซึ่งมีญาติร่วมอยู่ด้วยหลายคนในห้องพัก ก่อนจะข่มขืนภายในห้องพัก จากนั้นก็มีการนัดแนะขอร่วมหลับนอนเรื่อยมา กระทั่งตนเองทนไม่ไหวได้แอบถ่ายรูปขณะร่วมหลับนอนกันกับ ร.ต.อ. ส่งไปให้ ภรรยาของ ร.ต.อ. เพื่อให้สามีหยุดการกระทำ

ผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า แต่ภรรยาของ ร.ต.อ. กลับจะฟ้องตนเองข้อหาเป็นชู้และ ร.ต.อ. คนดังกล่าวก็ขู่ว่าจะเอาล่ามไปบอกสามีชาวต่างชาติของตนฟัง และยังโทรไปบอกลูกของตนอีก 3 คน ให้ดูข่าวแม่ในทีวี อีกทั้ง ร.ต.อ. ยังอ้างว่ามีเส้นสายรู้จักคนใหญ่ในวงการกฏหมาย ทำให้ตนเองได้รับความเดือดร้อนและเกรงกลัว จึงมาร้องกับตำรวจ ขณะที่ในช่วงบ่ายจะเดินทางไปพบคณะกรรมการสอบวินัยที่สน.ต้นสังกัดผู้ต้องหาด้วย

ทางผู้เสียหายจึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงมายื่นหนังสือร้องเรียนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาทางวินัยให้ร้อยตำรวจเอกผู้ถูกกล่าวหา ออกจากราชการไว้ก่อน