ปลัดมท.แจ้งทุกจังหวัดปฏิบัติตามข้อกำหนดศบค. เคร่งครัด 

ปลัดมท.แจ้งทุกจังหวัดปฏิบัติตามข้อกำหนดศบค. เคร่งครัด 

“ปลัดมท.” สั่งผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ทำตามประกาศ ข้อกำหนดศบค. อย่างเคร่งครัด 

เมื่อวันที่ 1 ก.ค.63 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เปิดเผยว่า ด้วยนายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ออกประกาศ ข้อกำหนด และคำสั่ง ลงวันที่ 30 มิ.ย. จำนวน 7 ฉบับ ได้แก่

1.ประกาศ เรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 3) ลงวันที่ 30 มิ.ย. 2563 ให้ขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีกคราวหนึ่งตั้งแต่วันที่ 1-31 ก.ค. 2563

2.ประกาศ เรื่อง การให้ประกาศที่ ครม. กำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ ลงวันที่ 30 มิ.ย. 2563 ให้การจัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 25 มี.ค. 2563 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปจนกว่า ครม. จะกำหนดเป็นอย่างอื่น

3.ประกาศ เรื่อง การให้ข้อกำหนดประกาศและคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ ลงวันที่ 30 มิ.ย. 2563 โดยให้บรรดาข้อกำหนด ประกาศ และคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดขึ้นตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรลงวันที่ 25 มี.ค. 2563 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และตามประกาศขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปจนกว่านายกรัฐมนตรีจะกำหนดเป็นอย่างอื่น

4.ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 11) ลงวันที่ 30 มิ.ย. 2563 มีสาระสำคัญเกี่ยวกับ

  • การเปิดเรียนและรูปแบบการเรียนการสอนในโรงเรียน สถาบันการศึกษา หรือมหาวิทยาลัยต่าง ๆ
  • การเปิดดำเนินการสถานที่และกิจกรรมต่าง ๆ
  • การปฏิบัติศาสนกิจหรือศาสนพิธีของทุกศาสนา
  • การขนส่งสาธารณะ
  • การผ่อนผันการใช้ช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักรเฉพาะเพื่อการขนส่งสินค้า 
  • มาตรการป้องกันโรค
  • การรักษาความเรียบร้อยตามมาตรการป้องกันโรค
  • การประสานงาน

5.ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 12) ลงวันที่ 30 มิ.ย. 2563 มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรและมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร

6.คำสั่ง ศบค. ที่ 6/2563 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 5) ลงวันที่ 30 มิ.ย. 2563

7.คำสั่ง ศบค. ที่ 7/2563 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 6) ลงวันที่ 30 มิ.ย. 2563

นายฉัตรชัย กล่าวว่า เพื่อให้เกิดการปฏิบัติเป็นไปตามประกาศ ข้อกำหนด และคำสั่งฯ ดังกล่าว ตนในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดรับทราบและถือปฏิบัติตามประกาศ ข้อกำหนดและคำสั่ง ศบค. ดังกล่าว ซึ่งถือเป็นกฎหมายที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548 โดยเคร่งครัด ไม่ต้องเพิ่มเติมกิจการ/กิจกรรมใด ๆ แต่อาจเสริมมาตรการในทางปฏิบัติได้

และให้ดำเนินการสร้างการรับรู้ตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามคำสั่ง ศบค. ที่ 6/2563 และที่ 7/2563 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ 2548 (ฉบับที่ 5) และ (ฉบับที่ 6) ลงวันที่ 30 มิ.ย. 2563 ให้แก่ผู้ประกอบการ พนักงานผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ ประชาชน และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องทุกระดับ ทั้งนี้ ในกรณีมีปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินการทั้งในส่วนของประชาชนและพนักงานเจ้าหน้าที่ตามข้อกำหนดนี้ ให้จังหวัดแจ้งมายังกระทรวงมหาดไทยเพื่อหารือคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และให้ทุกจังหวัดรายงานผลการปฏิบัติงาน ปัญหา/อุปสรรค และข้อแนะนำอย่างต่อเนื่องมายังกระทรวงมหาดไทยเป็นประจำทุกวัน