PYLON - ถือ

PYLON - ถือ

แนวโน้มในระยะสั้นยังท้าทาย

Event

Opportunity day.

lmpact

คาดว่าผลประกอบการจะต่ำสุดใน 2Q63 และ margin จะอ่อนแอในระยะสั้น

ในเดือนมิถุนายน 2563 PYLON มียอด backlog อยู่ที่ 748 ล้านบาท ทั้งนี้ กิจกรรมการก่อสร้างชะลอตัวลงในช่วงที่มีการ lockdown เพื่อคุม COVID-19 (ตลาดอสังหาริมทรัพย์หยุดนิ่ง โดยไม่มีการเปิดโครงการใหม่เลย) และมีการเลื่อนประมูลและเซ็นสัญญาโครงการภาครัฐ เราคาดว่าผลประกอบการใน 2Q63 จะลดลง QoQ เนื่องจาก i) อัตราการใช้งานอุปกรณ์ลดลง (15- 18 ชุด จาก 25 ชุดใน 1Q63) ii) ความยุ่งยากในการขนส่งไปยังพื้นที่ก่อสร้าง และ ii) เวลาทำงานน้อยลงเนื่องจาก curfew ทั้งนี้ เรามองว่าประมาณการของเราไม่น่ามี downside อีกเพราะเราประเมินผลกระทบจาก COVID-19 เข้าไปในประมาณการรายได้และกำไรไปเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากมีความล่าช้าในการขออนุมัติ EIA ของโครงการคอนโดมิเนียม และการเซ็นสัญญาโครงการ backlog ใหม่ ๆ เราจึงคาดว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมน่าจะเข้มข้นมากขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นน่าจะลดลงในระยะสั้น

แนวโน้มยังเป็นบวกในระยะกลางถึงยาว

แม้ว่าธุรกิจในระยะสั้นจะมีแนวโน้มอ่อนแอใน 2H63 แต่เราคาดว่าโครงการภาครัฐหลายโครงการน่าจะกลับมาเดินหน้าได้ในปี 2564 อย่างเช่นโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เมืองสนามบินอู่ตะเภา ฯลฯ ซึ่งทั้งสามโครงการนี้จะทำให้ backlog ของทั้งอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น
อย่างมาก

คาดว่าจะตัดงบลงทุนลง แต่ก็ขึ้นกับโครงการใหม่ด้วย

ในปัจจุบัน PYLON มีเงินสดในมือประมาณ 300 ล้านบาท โดยที่สัดส่วน D/E ต่ำมากเพียงแค่ 0.50xเท่านั้น ผู้บริหารบอกว่าถ้าหาก PYLON ได้ backlog ใหม่จากโครงการทางด่วนพระราม 3 – ดาวคะนอง

PYLON อาจจะพิจารณาลงทุนในอุปกรณ์ barrette pile มิฉะนั้นก็อาจจะพับแผนลงทุนเอาไว้ก่อนในปีนี้

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ถือ และให้ราคาเป้าหมายกลางปี 2563 ที่ 5.10 บาท อิงจาก PER ที่ 16x (PER เฉลี่ยระยะยาว -1 S.D.) ทั้งนี้ การผ่อนคลายมาตรการ lockdown จะเป็นปัจจัยกระตุ้นสำคัญที่ทำให้โครงการใหม่สามารถเดินหน้าไปสู่ขั้นตอนของการอนุมัติ EIA และการเซ็นสัญญา

Risks

ความไม่สงบทางการเมือง ความล่าช้าของการก่อสร้างและการลงทุน ผลกระทบทางลบจากมาตรการ LTV