'จีน' เลิกใช้เรือบรรทุกน้ำมันไปเวเนซุเอลา หวั่น ‘สหรัฐ’ ขึ้นแบล็คลิสต์

'จีน' เลิกใช้เรือบรรทุกน้ำมันไปเวเนซุเอลา หวั่น ‘สหรัฐ’ ขึ้นแบล็คลิสต์

“บริษัทจีน” เลิกใช้เรือบรรทุกน้ำมันเคยไปเวเนซุเอลา หวั่นถูก “สหรัฐ” ขึ้นแบล็คลิสต์ละเมิดคว่ำบาตรการค้า

สื่อต่างประเทศรายงานว่า บรรดาบริษัทน้ำมันของจีน  อาจยกเลิกการเช่าเหมาลำเรือบรรทุกน้ำมันที่เคยเดินทางไปยังเวเนซุเอลาในปีที่ผ่านมา ซึ่งสหรัฐมองว่า เป็นการละเมิดการคว่ำบาตรเวเนซุเอลา ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อการดำเนินงาน หากสหรัฐขึ้นบัญชีดำเรือจำนวนมากขึ้นที่ทำการค้ากับเวเนซุเอลา

รัฐบาลสหรัฐกำลังหาทางที่จะปิดกั้นการส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลา เพื่อตัดเส้นทางการหารายได้หลักของรัฐบาลประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร โดยมาตรการคว่ำบาตรที่มีอยู่แล้วในขณะนี้ ได้ลดการส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลาลงอย่างรุนแรง แต่นายมาดูโรก็ยังคงสามารถอยู่ในอำนาจได้ต่อไป

แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า สหรัฐอาจคุมเข้มมาตรการคว่ำบาตรเวเนซุเอลามากขึ้นด้วยการเพิ่มรายชื่อเรือบรรทุกน้ำมันอีกหลายสิบลำในบัญชีดำที่มีอยู่แล้ว 

รายงานข่าวดังกล่าวได้กระตุ้นให้บรรดาบริษัทน้ำมันของจีนพิจารณายกเลิกการใช้เรือบรรทุกน้ำมันที่เคยเข้าเทียบท่าเรือของเวเนซุเอลาในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา

แหล่งข่าวระบุว่า บริษัทน้ำมันและผู้ค้าน้ำมันทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะในจีน มีความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับการใช้เรือบรรทุกน้ำมันที่เคยขนส่งน้ำมันของเวเนซุเอลาเมื่อไม่นานมานี้

ทั้งนี้ Clarksons Platou Securities ประมาณการว่า มีเรือบรรทุกน้ำมัน 77 ลำเข้าเทียบท่าเรือน้ำมันหลักๆ ของเวเนซุเอลานับตั้งแต่เดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 2% ของกองเรือบรรทุกน้ำมันทั่วโลก และเรือเหล่านั้นมีแนวโน้มที่จะถูกสหรัฐดำเนินมาตรการคว่ำบาตร

การดำเนินมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบตลาดเรือบรรทุกน้ำมัน เนื่องจากบริษัทและผู้ค้าน้ำมันจะต้องยกเลิกการใช้เรือที่ถูกคว่ำบาตร ซึ่งการตัดสินใจของรัฐบาลสหรัฐในปลายปีที่ผ่านมาที่จะคว่ำบาตรเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำของบริษัท COSCO ของจีนนั้น ส่งผลให้อัตราค่าระวางเรือบรรทุกน้ำมันพุ่งแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ และส่งผลกระทบต่อการค้าน้ำมันทั่วโลก